แจก ATK ป่วน ห้าง-ร้านค้าตกสำรวจ วอนรัฐหาโควต้า

หนึ่งในมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขคือ การกำหนดให้องค์การหรือหน่วยงานต้องตรวจคัดกรองพนักงานทุกคนด้วยชุดตรวจโควิด ATK ทุก 7 วัน ขณะที่กทม. เตรียมกระจายชุดตรวจ ATK จำนวน 2.3 ล้านชุดให้กับ 4 ธุรกิจที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่

 

ตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท, ร้านอาหาร ภัตตาคาร, สปา, ร้านเสริมสวยและคลินิกเสริมความงาม โดยได้รับการสนับสนุนจากสปสช. ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดี แต่กลับเกิดปัญหา เมื่อหลายธุรกิจไม่ได้รับการจัดสรร ส่วนร้านค้าต่างได้รับ ATK ปริมาณที่น้อยมาก

 

โดยพบว่าการจัดสรรโควต้าชุด ATK ให้กับผู้ประกอบการจะแบ่งออกเป็น ซูเปอร์มาร์เก็ต/ไฮเปอร์มาร์เก็ต 40 คน/สาขา ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท 4 คน/สาขา ร้านอาหาร ที่มีพื้นที่น้อยกว่า 200 ตรม. ได้ร้านละ4 คน ร้านอาหารพื้นที่มากกว่า 200 ตรม. ได้ร้านละ 10 คน สปาได้ร้านละ 5 คน เป็นต้น

 

ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ร้านจำหน่ายเครื่องเขียน หนังสือ ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ จะไม่ได้รับการจัดสรรชุด ATK ในครั้งนี้ และไม่ได้รับคำชี้แจงจากกทม. ว่ามาจากสาเหตุใด

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การกระจายชุดตรวจ ATK จำนวน 2.3 ล้านชุดให้กับ 4 ธุรกิจกลุ่มเสี่ยงนั้นถือว่าน้อยมากหากต้องตรวจพนักงานทุกคนสัปดาห์ละครั้ง และจะกลายเป็นต้นทุนที่สูงมากสำหรับเจ้าของร้าน

 

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจของบริษัท พบว่ามีการจัดตรวจ ATK แล้ว 2 สัปดาห์หลังกลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่า ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจ ATK 9,000 บาทต่อสัปดาห์

 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ภาครัฐควรกระทำคือ

 

1. แจก ATK ให้กับพนักงานทุกคน โดยสามารถตรวจสอบได้ตามรายชื่อและจำนวนที่ผู้ประกอบการแจ้งต่อประกันสังคม

 

2. จัดหาชุดตรวจ ATK ให้กับภาคเอกชนในราคาถูก เฉลี่ย 70-100 บาทต่อชุด และนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ 1.5 เท่า และสามารถนำไปใช้ขอคืน VAT ได้ 2 เท่า ก็จะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการยอมที่จะใช้ชุดตรวจ ATK กับพนักงานอย่างเคร่งครัด

 

3. รัฐบาลควรวางเงื่อนเวลาในการใช้ ATK ที่ชัดเจน โดยกำหนดการฉีดวัคซีนได้ 70% เป็นตัวตั้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการได้

ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่าการแจกชุดตรวจ ATK ของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 2.3 ล้านชุด มีการแจกให้กับกลุ่มเสี่ยงหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเสริมสวย นวด สปา ซึ่งตลาดกับร้านอาหารน่าจะได้รับ 2 แสนคน ก็ถือว่าน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนพนักงานในร้านอาหาร

 

และการแจกจ่ายชุดตรวจ ATK ก็ให้เฉพาะคนไทย ไม่ได้ให้ต่างด้าว ซึ่งในทางปฏิบัติภาครัฐก็จะออกมาตรการบังคับให้พนักงานร้านอาหารที่เป็นร้านอาหารห้องแอร์ ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งการกำหนดวันที่ชัดเจนอยู่ระหว่างการยืนยันจากรัฐอีกครั้ง

 

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยร้านอาหารก็จำเป็นต้องตรวจพนักงานทุกคน ซึ่งหนีไม่พ้นที่ต้องซื้อเอง ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลจะให้ธุรกิจนำค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดตรวจ ATKไปหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็อยากขอให้รัฐบาลมองเรื่องการลดต้นทุนของธุรกิจให้เพิ่มขึ้นกว่านี้อีก เช่น การลดภาษี หรือแม้แต่การให้พนักงานสามารถซื้อชุดตรวจ ATK ผ่านแอพฯเป๋าตัง ซึ่งรัฐช่วยออกคนละครึ่ง เป็นต้น

 

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด และ กรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ATK ของ “ออสท์แลนด์ แคปปิตอล” กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมในการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ปริมาณมากให้ทางผู้ประกอบการที่สนใจในราคาพิเศษ

 

ผ่านรพ.พานาซี,คลินิกในเครือและแพลตฟอร์มออนไลน์ MORHELLO โดยในระยะแรกกระจายไปในกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว และขยายมาสู่พาร์ทเนอร์และคู่ค้าของบริษัท เช่น MK และเคอร์รี่ที่มียอดสั่งซื้อเข้ามาหลักแสนชิ้น

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสั่งซื้อ ATKไปใช้ในองค์กร บริษัทได้จัดจำหน่ายผ่านแพลต ฟอร์ม MORHELLO คอลเซ็นเตอร์และ Line@ ในราคาเดียว คือ 79 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้จำหน่ายให้กลุ่มท่องเที่ยวในราคา 75 บาท และสำหรับประชาชนทั่วไปในราคา 79 บาท

 

“เรามีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการอยู่แล้ว โดยผู้ประกอบการสามารถสั่งซื้อผ่านลิ้งค์หลังบ้านบนแพลตฟอร์ม MORHELLO ในราคารวม vat เท่ากับราคารัฐบาล เพราะเชื่อว่าผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้มีเงินมาก และเราต้องการให้คนไทย ใช้ ATK ในการตรวจคัดกรอง เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วแล้วสามารถเปิดประเทศได้ในเร็ววัน” นางศิริญา กล่าวและว่า

 

หลังส่งมอบ ATK เล่อปู๋ (LEPU) ให้กับองค์การเภสัชกรรมครบ 8.5 ล้านชิ้น ยังมีสต๊อกในมือราว 1 ล้านชิ้น และจะมีสินค้าเดินทางเข้ามาถึงไทยเพิ่มอีก 1.5 ล้านชิ้นภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถสั่งซื้อในราคา 79 บาทโดยไม่มีขั้นต่ำ ไม่ว่าจะสั่งเข้ามาเป็นหลักหมื่นชิ้นก็ไม่มีปัญหา