นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลอง ว่า ตามที่ได้มีประกาศจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติฉบับที่ 21/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังค่อนข้างแรง
รวมทั้งสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์ว่า จะมีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก ให้เฝ้าระวังน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดกาญจนบุรี มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลองเป็นจำนวนมาก
กรมชลประทาน จึงได้ปรับการระบายน้ำของเขื่อนแม่กลองให้เป็นไปตามเกณฑ์ควบคุม โดยสำนักงานชลประทานที่ 13 ได้ประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม ขอปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลอง ในปริมาณมากกว่า 800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองด้านท้ายเขื่อนแม่กลองมีระดับเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีการควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนแม่กลองในอัตรา 592 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
พร้อมกันนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการ และประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำแม่กลอง บริเวณที่ลุ่มต่ำที่อาจได้รับผลกระทบ จากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ให้เตรียมการเฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร สถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด