อัพเดทพายุเข้าไทย พื้นที่ไหนเตรียมรับมือฝน-น้ำท่วม เช็คเลย

12 ต.ค. 2564 | 08:38 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2564 | 16:01 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา เกาะติดสถานการณ์พายุเข้าไทย พายุโซนร้อน "คมปาซุ" กระทบจังหวัดไหนบ้าง พร้อมพยากรณ์ฟ้าฝนล่วงหน้า ฝนจะลดลงเมื่อไร เช็คข้อมูลทั้งหมดที่นี่ ด้านนักวิชาการ-เพจดัง เผยจับตาพายุเข้าไทยอีกหนึ่งลูก พายุหมุนเขตร้อนทางตะวันออกของเวียดนาม

อัพเดทสถานการณ์พายุเข้าไทย โดยในวันที่ 12  ตุลาคม 2564 กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่าภายหลังจากพายุ "ไลออนร็อก"สลายไปแล้ว ต้องมาติดตามกันต่อเนื่องกับพายุโซนร้อน "คมปาซุ" กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ลงสู่ทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ช่วงวันที่ 14 ต.ค. 64  ซึ่งอาจจะมีผลกระทบทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน ได้แก่ จ.มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ 

 

อย่างไรก็ตามในระยะนี้ 12-16 ต.ค.64 ฝนจะเพิ่มขึ้น และมีหนักบางพื้นที่ เนื่องจากร่องมรสุมยังพาดผ่านตอนกลางของประเทศไทย  หลังจากนั้นในวันที่ 17 ต.ค. 64 ฝนจะเริ่มน้อยลง เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากจีนเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมทางภาคเหนือ อีสานตอนบน  (ข้อมูลนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ )


 

ด้านเพจพยากรณ์อากาศประเทศไทย โดยบริษัท ซีพีเอส เ​ว​เธอร์​ จำกัด และ บริษัท​ ซีพี​เอส​ อะกริ จำกัด ได้เปิดเผยถึงค่าประมาณฝนของพายุ "คมปาซุ" (Kompasu) (เมื่อ เวลา 5:50 น. )โดยผลการพยากรณ์พบว่า พายุนี้จะเข้าเกาะไห่หนานประมาณ 13 ต.ค. แล้วตามด้วยเวียดนามประมาณ 14-15 ต.ค. 

 

นอกจากนั้นแล้วยังต้องจับตาในช่วงวันที่ 16 ต.ค. มีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อนอีกลูกทางตะวันออกของเวียดนาม โดยจะเพิ่มพลังงานขึ้นก่อนเข้าฝั่งเวียดนามประมาณกลางคืน 16 ต.ค. เนื่องจากพายุนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยังต้องรอการยืนยันจากการสังเกตจริงเสียก่อน

 

ค่าประมาณฝนของพายุ "คมปาซุ" (Kompasu)

ขณะที่นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) TEAMG ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคอีสานมีโอกาสที่จะมีฝนจะตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 19 ต.ค. เนื่องจากมีพายุเข้าหลายลูก ไม่ว่าจะเป็น พายุไลออนร็อก ที่เพิ่งสลายตัวไป ,พายุคมปาซุ และ พายุดีเปรสชั่น 

 

สำหรับรายละเอียดมีดังนี้ 

  • พายุคมปาซุ (#18:Kompasu หมู่ดาววงเวียนญี่ปุ่น) ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นพายุลูกที่ 18 ของปีนี้ เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก คาดว่าจะไปทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ประมาณวันที่ 11 ต.ค. แล้วเคลื่อนที่ ไปทำให้ฝนตกหนักในตอนใต้ของจีนเหนือเกาะไหหลำ ประมาณวันที่ 12 ต.ค.ต้องติดตามให้ใกล้ชิดว่าพายุลูกนี้จะขึ้นฝั่งเวียดนาม ที่กรุงฮานอย หรือเมืองวิญ หรือเมืองดานัง หรือ อาจจะสลายตัวไปประมาณวันที่ 13 ถึง 14 ต.ค. 

 

ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้

  • วันที่ 13 ถึง 15 ต.ค. อาจจะมีฝนตกปานกลางกระจายตัว โดยมีฝนตกหนักเป็นบริเวณเล็กๆ เป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ ในพื้นที่ภาคอิสาน  ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก (กาญจนบุรี  ราชบุรี  เพชรบุรี  และประจวบคีรีขันธ์)

โดยมีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม ได้แก่

  • อำเภอนาหว้า  ศรีสงคราม  ท่าอุเทน  พื้นที่โดยรอบภูพาน อำเภอพรรณานิคม เมืองสกลนคร  โคกศรีสุพรรณ  อ่างฯน้ำอูน  โพนพิสัย เมืองอุดรธานี  เสลภูมิ พื้นที่ที่อยู่สองตลิ่งลำน้ำชี ตั้งแต่ โกสุมพิสัยมหาสารคาม ไปจนถึง  เมืองยโสธร ชุมชนที่อยู่สองตลิ่งแม่น้ำมูล ตั้งแต่อำเภอพิมายไปถึง อำเภอพิบูลย์มังสาหาร และพื้นที่ที่อยู่สองตลิ่งลำน้ำป่าสัก ตั้งแต่ อำเภอวิเชียรบุรี  อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์  ถึงอำเภอท่าเรือ 

 

  • พายุดีเปรสชั่น (#19:) ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ คาดว่าจะไปทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณวันที่ 17 ต.ค. แล้วเคลื่อนที่ ไปทำให้ฝนตกหนักในตอนใต้ของประเทศลาว ต้องติดตามให้ใกล้ชิดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวมาในทิศทางใดแน่ หรืออาจจะสลายตัวไปประมาณวันที่ 18 ต.ค. 

ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้

  • วันที่ 17 ถึง 19 ต.ค. อาจจะมีฝนตกปานกลางกระจายตัว โดยมีฝนตกหนักเป็นบริเวณเล็กๆ เป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ ในพื้นที่ภาคอิสาน  ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก (กาญจนบุรี  ราชบุรี  เพชรบุรี  และประจวบคีรีขันธ์) 
  • โดยมีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมเช่นเดียวกันกับพายุคมปาซุ