อัพเดทสถานการณ์พายุเข้าไทย โดยในวันที่ 12 ตุลาคม 2564 กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่าภายหลังจากพายุ "ไลออนร็อก"สลายไปแล้ว ต้องมาติดตามกันต่อเนื่องกับพายุโซนร้อน "คมปาซุ" กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ลงสู่ทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ช่วงวันที่ 14 ต.ค. 64 ซึ่งอาจจะมีผลกระทบทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน ได้แก่ จ.มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ
อย่างไรก็ตามในระยะนี้ 12-16 ต.ค.64 ฝนจะเพิ่มขึ้น และมีหนักบางพื้นที่ เนื่องจากร่องมรสุมยังพาดผ่านตอนกลางของประเทศไทย หลังจากนั้นในวันที่ 17 ต.ค. 64 ฝนจะเริ่มน้อยลง เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากจีนเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมทางภาคเหนือ อีสานตอนบน (ข้อมูลนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ )
ด้านเพจพยากรณ์อากาศประเทศไทย โดยบริษัท ซีพีเอส เวเธอร์ จำกัด และ บริษัท ซีพีเอส อะกริ จำกัด ได้เปิดเผยถึงค่าประมาณฝนของพายุ "คมปาซุ" (Kompasu) (เมื่อ เวลา 5:50 น. )โดยผลการพยากรณ์พบว่า พายุนี้จะเข้าเกาะไห่หนานประมาณ 13 ต.ค. แล้วตามด้วยเวียดนามประมาณ 14-15 ต.ค.
นอกจากนั้นแล้วยังต้องจับตาในช่วงวันที่ 16 ต.ค. มีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อนอีกลูกทางตะวันออกของเวียดนาม โดยจะเพิ่มพลังงานขึ้นก่อนเข้าฝั่งเวียดนามประมาณกลางคืน 16 ต.ค. เนื่องจากพายุนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยังต้องรอการยืนยันจากการสังเกตจริงเสียก่อน
ขณะที่นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) TEAMG ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคอีสานมีโอกาสที่จะมีฝนจะตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 19 ต.ค. เนื่องจากมีพายุเข้าหลายลูก ไม่ว่าจะเป็น พายุไลออนร็อก ที่เพิ่งสลายตัวไป ,พายุคมปาซุ และ พายุดีเปรสชั่น
สำหรับรายละเอียดมีดังนี้
ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้
โดยมีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม ได้แก่
ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้