ประชาชนค้านเปิดประเทศ สวนดุสิตโพลเผย ห่วงสุดคือการระบาดระลอกใหม่

17 ต.ค. 2564 | 03:18 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2564 | 10:26 น.

สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ส่วนใหญ่คัดค้านกรณี “การเปิดประเทศ” ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เนื่องจากเห็นว่ายอดฉีดวัคซีนในไทยยังต่ำ หวั่นนำไปสู่การระบาดระลอกใหม่

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไปนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 59.86% ยังไม่เห็นด้วย และประชาชนส่วนใหญ่ 60.10% คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะดำเนินการในเรื่องนี้

 

โดย “ปัจจัย” ที่ประชาชนเห็นว่าจะทำให้สามารถเปิดประเทศได้ตามกำหนดเวลาดังกล่าว ได้แก่

  • อันดับ 1 ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70%
  • อันดับ 2 ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
  • อันดับ 3 ความพร้อมทางด้านสาธารณสุข โรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์
  • อันดับ 4 มีการตรวจเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอ/ตรวจคัดกรองก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ
  • อันดับ 5 สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น สนามบิน รถสาธารณะ ร้านอาหาร โรงแรม

 

ขณะที่มี ข้อจำกัดซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเปิดประเทศ ได้แก่

  • อันดับ 1 ประชาชนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนตามที่กำหนดไว้
  • อันดับ 2 อาจเกิดการระบาดภายในประเทศมากขึ้น
  • อันดับ 3 อาจเกิดการแพร่เชื้อจากกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ
  • อันดับ 4 กังวลโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
  • อันดับ 5 ขาดแผนรองรับที่ชัดเจน

ประชาชนค้านเปิดประเทศ สวนดุสิตโพลเผย ห่วงสุดคือการระบาดระลอกใหม่

สำหรับผลดีของการเปิดประเทศ ได้แก่ อันดับ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจ/เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้, อันดับ 2 ประชาชนมีงานทำ/สามารถทำมาหากินได้, อันดับ 3 สร้างรายได้ให้กับประเทศและในพื้นที่ท่องเที่ยว, อันดับ 4 ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัว และ อันดับ 5 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน/ผู้ประกอบการ

 

ขณะที่ ผลเสียของการเปิดประเทศ ได้แก่ อันดับ 1 อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น, อันดับ 2 ต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง, อันดับ 3 กระทบต่อความพร้อมด้านสาธารณสุข เช่น จำนวนเตียง บุคลากรทางการแพทย์, อันดับ 4 อาจเกิดการลักลอบเข้าประเทศตามชายแดน และ อันดับ 5 กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศ

 

น.ส.พรพรรณ บัวทอง นักวิจัยฯ กล่าวว่า จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจเห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่ก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านสุขภาพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน

ประชาชนค้านเปิดประเทศ สวนดุสิตโพลเผย ห่วงสุดคือการระบาดระลอกใหม่

นายวัลลภ ห่างไธสง รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วยังมีจำนวนตัวเลขเพียงกว่า 50% เท่านั้น ซึ่งผลสำรวจพบว่าประชาชน 60.10% คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) สูงขึ้น

 

เมื่อเปิดประเทศเล้ว ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าซึ่งต้องใช้แรงงานคนมากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้ รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมายเพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้ สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศในเรื่องดังกล่าวทางออนไลน์จำนวนทั้งสิ้น 1,392 คน ระหว่างวันที่ 11-14 ต.ค.ที่ผ่านมา