ติดเชื้อโควิด-19 เด็กมีโอกาสเท่าผู้ใหญ่ หมอธีระชี้ห่าง 1 เมตรลดเสี่ยง 5 เท่า

01 พ.ย. 2564 | 02:26 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2564 | 09:25 น.

หมอธีระเผยผลจัยล่าสุดพบเด็กและเยาวชนมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้เทียบเท่าผู้ใหญ่ แนะอยู่ห่างคนอื่นเกิน 1 เมตร ช่วยลดอัตราติดเชื้อลงได้ 5 เท่า

รายงานข่าวระบุว่า  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
1 พฤศจิกายน 2564
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 322,659 คน ตายเพิ่ม 4,491 คน รวมแล้วติดไปรวม 247,441,987 คน เสียชีวิตรวม 5,014,671 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ตุรกี อเมริกา และยูเครน 
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 94.7% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 94.34% 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 8,859 คน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก
หากรวม ATK อีก 3,285 คน ก็ยังคงเป็นอันดับ 8 ของโลก
และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
เปรียบเทียบจุดต่ำสุดของการระบาดแต่ละระลอก
หากดูจาก Worldometer
หลังสายพันธุ์ G การระบาดทั่วโลกลดลงจนจำนวนติดเชื้อเฉลี่ยรายสัปดาห์ต่ำสุดราว 358,000 คนต่อวัน
หลังสายพันธุ์อัลฟ่า จุดต่ำสุดประมาณ 360,000 คนต่อวัน
แต่หลังสายพันธุ์เดลตา ตอนนี้ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์กลับต่ำสุดประมาณ 402,000 คนต่อวัน และกราฟระบาดดูจะกำลังจะผงกหัวขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศยุโรปที่หนักขึ้นชัดเจน
สัญญาณดังกล่าวเป็นที่น่ากังวลว่า หน้าเทศกาลของประเทศตะวันตกไม่ว่าจะเป็น Thanksgiving day วันที่ 25 พฤศจิกายน อาจย้อนรอยไปเหมือนปีที่แล้ว ที่หากไม่ระมัดระวังก็จะทำให้เกิดการระบาดสูงขึ้นมาก และต่อเนื่องไปถึงคริสตมาสและปีใหม่

ไทยยังติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน
ในขณะเดียวกัน ก่อนหน้าเค้า ไทยเราก็มีเทศกาลลอยกระทงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ข่าวออกมาให้เห็นวันก่อนแล้วว่าให้จัดงานลอยกระทงกันได้ ก็คงต้องเตือนไว้ล่วงหน้าว่า ขอให้ระมัดระวังให้มาก เพราะจะไม่เหมือนปีก่อนที่มีการจำกัดกิจการกิจกรรมและยังไม่ได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบปีนี้ ถ้าการป้องกันหละหลวม การติดเชื้อแพร่เชื้อย่อมเป็นไปได้มาก และจะนำไปสู่ Blue or Black X'Mas and New Year ได้
ความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับโควิด-19 ในเด็กและเยาวชน
งานวิจัยจากทีมงานของ US CDC เผยแพร่ในวารสารการแพทย์สากลอย่าง JAMA Pediatrics เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ศึกษาในนิวยอร์คและยูทาห์ ตั้งแต่กันยายน 2020 ถึงเมษายน 2021
สาระสำคัญคือ "เด็กและเยาวชนนั้นมีอัตราการติดเชื้อเทียบเท่ากับผู้ใหญ่"
นี่ลบล้างความเชื่อเดิมที่เคยเชื่อว่าเด็กมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่ 
นอกจากนี้ความรู้ปัจจุบันยังมีการศึกษาและชี้ให้เห็นว่า เด็กและเยาวชนนั้นนอกจากติดเชื้อได้เหมือนผู้ใหญ่แล้ว ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้เช่นเดียวกัน 
ความเสี่ยงในการติดเชื้อกันในหมู่สมาชิกในครอบครัว ที่พบจากการวิจัยนี้เฉลี่ยแล้วสูงถึง 52%
ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงเพราะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนป้องกันในช่วงที่ผ่านมา และในประเทศไทยนั้น เด็กก็ได้วัคซีนไปแค่บางช่วงอายุเท่านั้น 
จากข้อมูลการแพทย์ในปัจจุบัน จึงมีความเสี่ยงสูงมาก หากยังมีสถานการณ์ระบาดรุนแรงกระจายไปทั่ว วัคซีนจำกัดไม่ครอบคลุมทุกช่วงอายุ โดยมีการเปิดสถานศึกษาให้มีการเรียนการสอนกัน ดังนั้นคุณครู และผู้ปกครองทุกท่านจึงควรช่วยกันสอนลูกหลานของเราให้มีความรู้ และมีทักษะในการป้องกันตัวจากการติดเชื้อแพร่เชื้อด้วย

เด็กมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้เทียบเท่าผู้ใหญ่
การช่วยกันผลักดันให้รัฐเร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย ให้แก่เด็กๆ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน
การรอให้บริษัทวัคซีนต่างๆ มายื่นขอขึ้นทะเบียนในประเทศ ภาษาทางเทคนิคเรียกว่าการทำงานแบบ Passive mode เหมาะสำหรับสถานการณ์ปกติ
แต่สถานการณ์ระบาดวิกฤติแบบที่เรากำลังเผชิญอยู่ ท่ามกลางนโยบายเปิดประเทศเปิดท่องเที่ยวเปิดค้าขายและเปิดเรียน จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น Active mode โดยการเล็งเห็นความจำเป็นที่จะรีบติดต่อ เชิญ เจรจา และเสาะหามาให้พลเมืองเด็กของประเทศเรา เพื่อให้เกิดสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิต
มิฉะนั้นจะมีโอกาสที่เกิดการระบาดตามรอยต่างประเทศ ที่เปิดสถานศึกษาไปแล้ว ก็จะตามมาด้วยการติดเชื้อแพร่เชื้อวงกว้าง ทั้งในสถานศึกษาและลามไปยังครอบครัวและสังคมตามลำดับ
ใส่หน้ากาก สำคัญมาก อยู่ห่างคนอื่นเกิน 1 เมตร จะช่วยลดอัตราติดเชื้อลงได้ 5 เท่า
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 1 พฤศจิกายน 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น  8,165 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,891,326 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 55 ราย หายป่วยเพิ่ม ,574 ราย กำลังรักษา 99,227 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,774,276 ราย