หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 พฤศจิกายน 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่สูงขึ้น ประกอบกับอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนพลังงาน รวมถึงราคาถ่านหินและแก๊สธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตแทน
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย. 64 จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. เพียง 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อตกลงเดิม โดยคูเวตและอิรักเห็นตรงกันกับกลุ่มโอเปกพลัส เนื่องจากคาดว่ายังคงมีปริมาณน้ำมันดิบเพียงพอกับความต้องการใช้ แม้ว่าหลายประเทศต่างกดดันให้ทางกลุ่มเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็ตาม
+/- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ผลักดันให้ประเทศผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสำรองในกลุ่ม G20 กระตุ้นการผลิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างในการกดดันกลุ่มโอเปกพลักให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต และเพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในภูมิภาค ส่งผลให้มีการขับขี่ภายในประเทศสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จีนได้ระบายน้ำมันเบนซินจากคลังสำรองเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันในภูมิภาค
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น ในขณะที่จีนระบายน้ำมันดีเซลจากคลังสำรองเพื่อเพิ่มอุปทานในตลาดน้ำมันที่ยังคงตึงตัว
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 84.71 ดอลลาร์/บาร์เรล