สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้(13มกราคม2565 )อ้างการเปิดเผยของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า พบข้อบ่งชี้จากการทดลองวัคซีนครั้งล่าสุด หลังจากที่ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ช่วยให้ผู้ได้รับวัคซีนมีแอนติบอดีต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น
การทดลองดังกล่าวเป็นการสังเกตการณ์จากผลลัพธ์ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีน mRNA ยี่ห้ออื่นมาแล้ว 2 เข็ม ก่อนจะฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือวัคซีนเชื้อตาย โดยพบว่ามีการสร้างแอนติบอดีสูงขึ้นต่อทั้งไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งเบตา, เดลตา, อัลฟา และแกรมมา
นอกจากนี้ข้อมูลจากอีกการทดลองหนึ่งซึ่งเป็นการทดลองในระยะที่ 4 รายงานในระบบจัดเก็บเอกสารวิชาการก่อนการตีพิมพ์ออนไลน์ เดอะ แลนเซ็ต (The Lancet) ชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 นั้น สามารถเพิ่มระดับแอนติบอดีได้เป็นอย่างมากหลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคมาก่อน
ข้อมูลเหล่านี้เพิ่มหลักฐานสนับสนุนว่าสามารถใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงวัคซีนที่ได้รับมาก่อนหน้านี้” แอสตร้าเซนเนก้าระบุในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่า บริษัทจะเร่งส่งข้อมูลเพิ่มเติมนี้ไปยังหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกท่ามกลางความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการใช้วัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3
การเปิดเผยดังกล่าวสอดคล้องกับการทดลองในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลการทดลองออกมาในลักษณะที่คล้ายคลึงกันเรื่องการเพิ่มขึ้นของแอนติบอดี หลังฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์
อย่างไรก็ตามการทดลองของสหราชอาณาจักรในขณะนั้นซึ่งดำเนินการในช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ได้ข้อสรุปว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถเพิ่มแอนติบอดีได้สูงสุดเมื่อฉีดหลังจากที่ได้รับวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นามาแล้ว 2 เข็ม
"เซอร์ เมเน แพนกาลอส" รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตร้าฯ กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ ช่วยปกป้องคนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกจากโรคโควิด-19 และข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ซึ่งรวมถึงการใช้กับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนประเภทอื่นมาก่อน เนื่องด้วยความเร่งด่วนอย่างต่อเนื่องของโรคระบาด และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ สามารถเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ จึงจะดำเนินการยื่นขอทะเบียนอนุญาตทั่วโลก เพื่อนำวัคซีนตัวนี้มาใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3
"ศาสตราจาร์ย เซอร์ แอนดริว เจ พอลลาร์ด" ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบ Oxford Vaccine Group มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ผลการศึกษาที่สำคัญนี้แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรก ของแอสตร้าฯ หรือวัคซีน mRNA หรือวัคซีนเชื้อตาย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันสู้กับโรคโควิด-19 ได้ดี
ทั้งนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของออกซ์ฟอร์ด – แอสตร้าฯ นั้น เหมาะที่จะเป็นทางเลือกที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับประชากรของหลายๆ ประเทศ ที่กำลังพิจารณาโปรแกรมการฉีดวัคซีนกระตุ้น เพื่อเป็นการเพิ่มป้องกันหลังจากที่ได้รับหลังได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม