วันที่ 14 ม.ค.65 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงข่าว ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลช่วงหนึ่งว่า อธิบดีกรมควบคุมโรคเน้นย้ำวัคซีนทุกยี่ห้อมีประสิทธิภาพสูง 90-100% ในการป้องกันการป่วยหนัก การเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
ดังนั้นหากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ตาม จากการรายงานพบว่าภูมิคุ้มกันจะสามารถลดลงได้เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข จากการสำรวจหลายพื้นที่พบว่าภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้นและสามารถช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกระตุ้นวัคซีนกระตุ้นด้วยเข็ม 3 ไม่ว่าจะเป็น AstraZeneca หรือ PfiZer การศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง ไม่แตกต่างกัน และจากการศึกษาคลัสเตอร์กาฬสินธุ์พบว่าการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 ด้วยAstraZeneca และ PfiZer มีผลการทดลองป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งสองยี่ห้อ 80-90%
จึงนำมาสู่นโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำในเรื่องของการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3 เดือนมกราคม 2565 หากทุกคนที่มีกำหนดได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 ขอให้ไปรับวัคซีน