โฆษกรัฐบาลเผยไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ของเอเชียที่มีวัคซีนเด็กเล็ก 5-11 ปี

16 ม.ค. 2565 | 03:15 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2565 | 10:18 น.

โฆษกรัฐบาล เผย "นายกฯ " ชวนประชาชนฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ก่อนรีบฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 โดยไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ของทวีปเอเชียที่มีวัคซีนเด็กเล็ก 5-11 ปี เตรียมนำเข้าปลายเดือนมกราคมนี้

วันนี้ (16 ม.ค.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากเตือนประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุด และสวมหน้ากากอนามัย 100%  ออกนอกบ้านขอให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยเป็นปกติวิสัย  เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ งดการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน  และไม่ไปในสถานที่เสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ  

 

พร้อมย้ำร้านอารหารต่าง ๆ ต้องเข้มงวดตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting)  ขณะที่สถานประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ ควรจัดให้ Work From Home และขอให้มีตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ  รวมไปถึงเชิญชวนให้ประชาชนรีบเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 โดยเร็ว เพื่อสร้างภูมิต้านทานและลดอาการรุนแรงเพื่อให้ใช้ชีวิตวิถีใหม่  (New Normal) อยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัย  

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับสูตรวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนรับการฉีดในขณะนี้  คือ 

 

1.ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน แบ่งตามกลุ่มดังนี้ กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป สูตร AZ-AZ, AZ-Pz และ Sv-AZ เป็นหลัก และกลุ่มเป้าหมายอายุ 12 – 17 ปี สูตร Pz-Pz เป็นหลัก 

 

2.ผู้ที่ต้องรับเข็มกระตุ้น แบ่งตามกลุ่มดังนี้ (1) ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sv-AZ ครบในเดือน ส.ค.-ต.ค. 2564 ให้เข็มกระตุ้นด้วย AZ เป็นหลัก (2) ผู้ที่ได้รับวัคซีน AZ-AZ ครบในเดือน ส.ค.-ต.ค. 2564 ให้เข็มกระตุ้นด้วย Pz เป็นหลัก และ (3) ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้รับเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AZ เป็นหลัก  ทั้งนี้กรณีวัคซีนเข็มกระตุ้นผู้มีประวัติการติดเชื้อให้ใช้ AZ เป็นเข็มกระตุ้นสำหรับผู้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ หรือครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนการติดเชื้อ 

 

ส่วนกรณีวัคซีนป้องกันโควิดสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีนั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  ได้มีการอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก อายุ 5-11 ปี   ปริมาณวัคซีนอยู่ที่ 10 ไมโครกรัม/โดส/คน  คาดว่าจะเริ่มทยอยเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณปลายเดือนมกราคมนี้ หรือประมาณภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565  โดยไทยจะเป็นประเทศที่ 2  ของทวีปเอเชียในการสั่งวัคซีนมาใช้ในเด็กอายุ 5-11 ปี เพราะปัจจุบันวัคซีนที่ใช้ในเด็กกำลังเป็นที่ต้องการทั่วโลก     

นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้รัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมแผนในการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี เรียบร้อยแล้ว 

 

ส่วนวัคซีนเชื้อตายสำหรับฉีดให้เด็กทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม  อย.กำลังเร่งขึ้นทะเบียนวัคซีนเชื้อตายสำหรับฉีดในเด็กซึ่งต้องรอผ่านมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันก่อน เมื่อผ่านแล้วผู้ปกครองก็จะสามารถเลือกสูตรในการฉีดวัคซีนให้กับบุตรหลานของตนเองได้ด้วยความสมัครใจ  

 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยวันนี้ (16 มกราคม 2565) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม รวม 8,077 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 7,795 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 282 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 101,050 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ขณะที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว  4,887 ราย รวมหายป่วยสะสม 53,517 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา80,549 ราย และเสียชีวิต 9 ราย