นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากฎหมายกัญชา ว่า วันนี้มีความคืบหน้าในการปลดล็อกกัญชา-กัญชง ออกจากรายชื่อเสพติดให้โทษ ซึ่งต้องเรียนว่าทุกอย่างต้องทำตามลำดับขั้นตอนทางกฎหมาย
ขั้นตอนแรก คือ การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ที่เป็นกฎหมายระดับรอง ซึ่งจะออกเป็นลักษณะของประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ ประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยวันนี้เป็นก้าวแรกในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ที่มี นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการอย.ฯ เป็นประธาน
มติในที่ประชุมเห็นชอบให้ควบคุมสารสกัดจากทุกส่วนของกัญชา และกัญชง โดยเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. .... ซึ่งกำหนดให้การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 คือ สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชง ที่เป็นพืชในตระกูล
แคนนาบิส (Cannabis) ยังเป็นยาเสพติดให้โทษ ยกเว้นที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ คือ ก.สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชง เฉพาะที่ได้จากการอนุญาตปลูกในประเทศ ในทุกส่วนที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก และ ข. สารสกัดจากเมล็ดกัญชา กัญชง ที่ได้จากการปลูกในประเทศเช่นกัน
“จะไม่มีชื่อกัญชาอยู่ในยาเสพติดแล้ว เราจะเหลือว่ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 คือ สารสกัดที่ได้จากพืชกัญชา กัญชง ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงประโยชน์ของการใช้กัญชาได้”
นพ.วิทิต กล่าวย้ำว่า อย.ต้องป้องกันการนำเข้าสารสกัดจากกัญชา และกัญชง จากต่างประเทศ เพื่อดูแลผู้ประกอบการในประเทศ ด้วยการกำหนดข้อยกเว้น ก และ ข เพื่อให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้ ยังสามารถสกัดและนำไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ดังนั้น สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชงทุกส่วน ยังเป็นยาเสพติด แต่ถ้ามีปริมาณสาร THC น้อยกว่า 0.2% โดยน้ำหนัก จะถือว่าไม่เป็นยาเสพติด แต่ต้องมาจากการอนุญาตปลูกในประเทศเท่านั้น
สำหรับขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ที่มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาในวันที่ 19 ม.ค. นี้ หลังจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ (ร่าง)ประกาศดังกล่าว ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่ท่านวิษณุ เครืองาม. รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ย้ำว่าหากผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ส.แล้ว ก็จะเสนอต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ที่มีอำนาจตามประมวล
ยาเสพติด เห็นชอบเพื่อลงนามประกาศใช้ต่อไป
“หากปลดล็อกกัญชา เราจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เดิมใช้ได้แค่บางส่วน แต่ครั้งนี้ช่อดอกก็จะใช้ได้ตามภูมิปัญญา เพื่อดูแลสุขภาพ ใช้เมล็ดกัญชาได้ ไปจนถึงเศรษฐกิจ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป”