นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้าง พบว่า อาการของผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางรายอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยในของโรงพยาบาล หรืออยู่โรงพยาบาลเพียงระยะสั้น ๆ แล้วไปพักฟื้นต่อที่บ้าน หรือสถานที่รัฐจัดให้
ล่าสุดกรมการแพทย์ ได้จัดตั้งสถาบันทันตกรรมเป็นศูนย์ประสานงานจัดส่งยา เวชภัณฑ์และอาหาร DMS Satellite HI สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่แยกกักตัวที่บ้าน ซึ่งอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทั่วประเทศ โดยจะมีการประเมินและติดตามอาการ และสัญญาณชีพผู้ป่วย ผ่านระบบ DMS Telemedicine หรือระบบสื่อสารอื่นๆ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
โดยผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่แยกกักตัว ควรแยกห้องพักและของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น ไม่ออกจากที่พัก และห้ามผู้อื่นมาเยี่ยมหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลทุกครั้งที่สัมผัสกับของใช้ต่างๆ ห้ามทานอาหารร่วมกับผู้อื่น แยกซักเสื้อผ้าและเครื่องนอน ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น และแยกทิ้งขยะและมัดปากถุงขยะอย่างมิดชิด
ด้านทันตแพทย์หญิงสุมนา โพธิ์ศรีทอง ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวว่า สถาบันทันตกรรมรับผิดชอบเป็นศูนย์ประสานงานจัดส่งยา เวชภัณฑ์และอาหาร สำหรับผู้ป่วยที่แยกกักตัวที่บ้านแบบ HOME ISOLATION ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ โดยประสานงานและรับข้อมูลผู้ป่วยจากหน่วยงานสังกัดกรมการแพทย์ทั่วประเทศ เมื่อผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการและวินัจฉัยจากแพทย์แล้ว จะนำส่งข้อมูลลงระบบ DMS Satellite HI
สถาบันทันตกรรมจะดำเนินการจัดส่งยา พร้อมเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่จำเป็นในการรักษา เช่น ยา Favipiravir เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ปรอทวัดไข้ดิจิตอล แผ่นพับคำแนะนำการปฏิบัติตัว ชุด DMS Set ชุดยาสามัญ และอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นในการแยกกักตัว พร้อมทั้งจัดส่งอาหารให้ผู้ป่วย 3 มื้อต่อวัน จนกว่าแพทย์จะประเมินจำหน่ายผู้ป่วย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลและประสานงานในการจัดส่ง พร้อมอำนวยความสะดวกตลอดระยะเวลาระหว่างการรักษาแบบ HOME ISOLATION