รู้ยัง!หญิงไทยรับยาเม็ดคุมกำเนิดผ่านแอปเป๋าตังฟรี เช็คเงื่อนไขที่นี่

01 ก.พ. 2565 | 08:53 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.พ. 2565 | 16:06 น.

สปสช.เปิดให้หญิงไทยรับยาเม็ดคุมกำเนิดฟรีผ่านแอปเป๋าตัง หรือ ใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตนที่หน่วยบริการก็สามารถรับได้ฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เช็คเงื่อนไข ขั้นตอนการขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดที่นี่

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้เริ่มดีเดย์ให้หญิงไทยสามารถรับยาเม็ดคุมกำเนิดได้ฟรี ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือ ในกรณีที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตนที่หน่วยบริการและสามารถรับยาเม็ดคุมกำเนิดได้เลย ทั้งนี้หญิงไทยที่จะรับยาเม็ดคุมกำเนิด สามารถศึกษาเงื่อนไขและขั้นตอนทั้งหมดได้ดังนี้

 

1.กรณีรับบริการผ่านสมาร์ทโฟน 

  • เข้าแอปฯ เป๋าตัง ไปที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือก “บริการสร้างเสริมสุขภาพ”
  • เลือกสิทธิประโยชน์ที่ต้องการรับ
  • ผู้หญิง 15-59 ปี จะแสดงสิทธิ “ยาเม็ดคุมกำเนิด”
  • ค้นหาหน่วยบริการ และทำการจองสิทธิ 
  • เดินทางไปรับยาคุมกำเนิดภายในวันที่จองสิทธิ ตามเวลาทำการของหน่วยบริการ
  • หน่วยบริการตรวจสอบสิทธิ และบันทึกการรับบริการ
     

2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน

  • เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการ
  • แสดงบัตรประชาชน ยืนยันตัวตนเพื่อรับบริการ 
  • หน่วยบริการตรวจสอบสิทธิ และบันทึกการรับบริการ

 

หญิงไทยรับยาเม็ดคุมกำเนิดผ่านแอปเป๋าตังฟรี

 


 

สำหรับนโยบายการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดฟรีในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์  ซึ่งทางสปสช.ได้ร่วมกับคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ร้านขายยา โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิในเขต กทม. รวมกว่า 2,500 แห่ง ทั่วประเทศที่จะให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดดังกล่าว  ทั้งนี้ผู้ที่มาขอรับยาเม็ดคุมกำเนิด จะได้รับยาไม่เกิน 3 แผงต่อครั้ง และคนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี
 

 

นอกเหนือจากการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดแล้ว ในเดือนเมษายน 2565 ทางสปสช.จะจัดช่องทางให้บริการถุงยางอนามัย แก่คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ทุกสิทธิ เพื่อความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ Safe Sex โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 


บริการถุงยางอนามัย เริ่มเมษายน 2565 

  • ให้บริการคนไทยทุกสิทธิ อายุ 15 ปีขึ้นไป
  • รับได้ครั้งละ 10 ชิ้นต่อสัปดาห์, 7 วันรับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยางต่อคนต่อปี 

 

เมษายน 2565 สปสช.จัดช่องทางให้บริการถุงยางอนามัย แก่คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป