กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

06 ก.พ. 2565 | 09:47 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.พ. 2565 | 16:59 น.

อธิบดีกรมชลประทาน นำทีมลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง แก้ไขปัญหาภัยแล้งระยะสั้น ปี 2564/65

วันนี้ (6 ก.พ. 65) ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ไปติดตามการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง 2564/65 ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยมี นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์น้ำ 

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าปัจจุบัน (6 ก.พ.65) ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ความจุเก็บกัก 960 ล้าน ลบ. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 676 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างฯ สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 ในพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 10 ซึ่งได้วางแผนในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามแผนบริหารความเสี่ยง ด้วยการเพิ่มศักยภาพการลำเลียงน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่คลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก โดยเตรียมความพร้อมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณปากคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก หากระดับน้ำในแม่เจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ระดับต่ำกว่า +13.00 ม.รทก. พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการผลิตน้ำประปา ด้วยการจัดสรรน้ำแบบรอบเวรการใช้น้ำในคลอง ชัยนาท – ป่าสัก รวมทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อสนับสนุนการลำเลียงน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก เข้าไปเติมให้กับแม่น้ำบางขาม เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ด้วย 

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะสั้น ได้ดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำ และแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำ 

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

 

ด้านแผนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาว กรมชลประทานได้วางแผนการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าแบบอาคารถาวรบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เพื่อให้สามารถสูบน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก และสนับสนุนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการ “โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม– เขื่อนภูมิพล” สามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพลปีละประมาณ 1,795 ล้าน ลบ.ม. 

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

 

ส่วนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำฝั่งซ้ายคลองชัยนาท- ป่าสัก อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ในการส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี2564/65 ตามแผนที่กรมชลประทานกำหนด แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตโครงการชลประทานลพบุรี จำนวน 56,685 ไร่ และพื้นที่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาช่องแค จำนวน 8,040 ไร่ (รับน้ำจากคลองส่งน้ำ 2 ซ้าย และ3 ซ้าย) ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรทำนาปรังแล้ว 100% คาดว่าจะเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้และทางโครงการชลประทานลพบุรีได้เตรียมส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวนาปีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมตามแผนปรับปฏิทินการเพาะปลูกข้าวนาปีของพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อไป 

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี คุมเข้มจัดการน้ำ

 

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานในพื้นที่ บริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึงและสอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน ตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ การเกษตร และการอุตสาหกรรม เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้