นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ประธานบริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส เปิดเผยว่า บริษัทฯเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจรถใช้แล้วและแนวโน้มการขยายตัวในประเทศไทย จึงได้จัดตั้ง Auction Express บริษัทประมูลรถยนต์ออนไลน์รูปแบบใหม่ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อขายมากขึ้น รวมทั้งตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศที่กำลังเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันการซื้อขายในตลาดรถยนต์มือสองมีตัวเลขประมาณ 1.3 ล้านคัน ทั้งนี้แหล่งรถจากการประมูลนับเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจรถใช้แล้ว ในขณะที่สถานการณ์ COVID-19 เป็นปัจจัยช่วยให้แนวโน้มชัดเจนยิ่งขึ้น
“ความต้องการของผู้ประกอบการ คือ ความสะดวกและความน่าเชื่อถือ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะร่วมมือกับบริษัทประมูลอื่นๆ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการประมูลรถยนต์ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อยกระดับมาตรฐานการประมูลรถยนต์ใช้แล้วในประเทศให้เป็นมาตรฐานสากล มีความน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ ทั้งในด้านคุณภาพ และด้านราคา”
นายกำพล เอกเมธีพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส กล่าวว่า กลยุทธ์หลักในการทำธุรกิจคือ “มาตรฐาน รวดเร็ว ครบวงจร” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะถูกขับเคลื่อนดังนี้
มาตรฐานด้วยมาตรฐานการตรวจสภาพรถ TVI-A (Thailand Vehicle Inspection-Auction Grading Standard ) ครอบคลุมทุกรายละเอียด มีการทดสอบด้วยการขับขี่จริง ซึ่งในรายการรถประมูล จะแสดงผลข้อมูลการตรวจสภาพอย่างละเอียดพร้อมรูปภาพที่ชัดเจน และยังมีวิดีโอเพื่อรับฟังเสียงเครื่องยนต์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประมูลยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สามารถประมูลได้โดยไม่จำเป็นต้องมาดูด้วยตนเองอีกต่อไป ที่สำคัญสำหรับรถที่เข้าร่วมโครงการ GTBB (Guarantee Buy Back) หากพบว่ามีการประเมินไม่ถูกต้องในจุดที่กำหนดยินดีรับซื้อคืนอีกด้วย
รวดเร็ว ด้วยระบบจัดการการประมูล หรือ AMOS ช่วยให้ประหยัดเวลา สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถปรับได้ตามความต้องการลูกค้าที่แตกต่างกันโดยมีการประมูล 2 รูปแบบ คือ รายสัปดาห์ และรายวัน
วิธีการเคาะหรือเสนอราคาประมูล รูปแบบใหม่ คือ การฝากราคาล่วงหน้าอัตโนมัติ (Proxy bid) และ การซื้อทันที (Buy It Now) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประมูลทั่วประเทศ มีโอกาสเข้าถึงการประมูลรถยนต์ที่มีมาตรฐานได้มากขึ้น
ครบวงจร ด้วยบริการเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ได้แก่ บริการขนย้ายรถ บริการที่จอดรถ บริการปรับสภาพและฟื้นฟูสภาพรถ บริการสินเชื่อและประกันภัย บริการอบรม บริการข้อมูลราคา เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีระบบสมาชิกประเภทต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทและความต้องการของลูกค้า สามารถสมัครทดลองใช้งานได้ฟรี 30 วัน
"ในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 9,200 คัน โดยแหล่งที่มาของรถมาจากผู้ขายที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรของเรา รวมถึงจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งเป็นรถจากหลากหลายยี่ห้อ”
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯยังได้แต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ได้แก่ นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ซึ่งนายพัฒนเดช ได้เปิดเผยว่า การประมูลรถยนต์ออนไลน์ จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับสะดวก และสามารถใช้เวลาในการทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยมีปัจจัยที่สำคัญคือ ความถูกต้อง แม่นยำของการตรวจประเมินสภาพรถ ซึ่งบริษัทฯ จะช่วยยกระดับมาตรฐานของการประมูลรถยนต์ในประเทศ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของการตรวจสภาพรถให้มีความถูกต้อง แม่นยำ ครอบคลุมครบถ้วน