รถมือสองเนื้อหอม สตาร์ทอัพน้องใหม่ - ประมูลออนไลน์เตรียมรุกหนักปี 65

24 ธ.ค. 2564 | 18:56 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2564 | 20:10 น.

ตลาดรถมือสองแนวโน้มเติบโต หลังโควิดระบาด ลูกค้าปรับพฤติกรรมมองหารถส่วนตัวมากขึ้น ด้านผู้ประกอบการในธุรกิจคึก เพิ่มช่องทางแพลทฟอร์มออนไลน์ ทั้งสตาร์ทอัพน้องใหม่แบรนด์ไทย -เทศ รวมถึงธุรกิจประมูลออนไลน์ คาดปี 65 มีผู้เล่นรายใหม่แจ้งเกิดในตลาดอีกหลายเจ้า

ตลาดรถยนต์มือสองในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตสวนกระแส เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความกังวลใจเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 บางส่วนไม่มั่นใจที่จะใช้รถสาธารณะ ทำให้มองหารถยนต์ส่วนตัว ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นรถยนต์มือสองจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ลูกค้าเหล่านั้น

 

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้รถมือสองเติบโต และมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆเข้ามาเจาะตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทในธุรกิจนี้ ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่มีการเปลี่ยนมาใช้การขายทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง Facbook Youtube Line และ Website ส่วนแพลตฟอร์มออนไลน์ในรูปแบบของ Listing ที่ลงประกาศขายนั้นได้รับความนิยมน้อยลงแต่ยังคงมีใช้อยู่ เช่น Kaidee, One2Car และ Taradrod  ก็มีการปรับตัว และพัฒนารูปแบบการขาย เข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น 

 

อานิสงค์โควิด ส่งรถมือสองเติบโต 

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสอง กล่าวถึง ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองว่า แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่กลับทำให้เกิดความต้องการรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ได้มีการพัฒนาและยกระดับการขาย การให้บริการทำให้ลูกค้ามั่นใจและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น  

ขณะที่ทิศทางตลาดรถยนต์มือสองในปี 2565 ยังมีแนวโน้มที่ดี ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะได้เปรียบเรื่องราคาเมื่อเทียบกับรถใหม่ อีกทั้งรถยนต์มือสองในปัจจุบันมีอายุการใช้งานไม่มาก ยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันทำให้ลูกค้ามีทางเลือกและมั่นใจในการซื้อรถมือสองมากขึ้น

 

นายพัฒนเดช กล่าวว่า การแข่งขันในปี 2565 จะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการเดิมต้องแข่งขันทั้งในเรื่องของตัวสินค้าที่ต้องคัดคุณภาพที่ดีมากขึ้นและช่องทางในการทำตลาด เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในระหว่างผู้ประกอบการเองก็จะมีการแบ่งกันชัดเจนจะเห็นความแตกต่างมากขึ้น 

 

ในขณะที่ผู้ประกอบการใหม่ที่เข้ามาโดยเน้นการทำตลาดแบบออนไลน์เป็นหลัก เช่น Carsome, Car24 และ Carro จะได้เปรียบในเรื่องของเงินทุน แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้มาตรฐาน  ประสบการณ์การทำตลาดแบบออนไลน์ จะทำให้ตลาดมีความดุเดือดมาก ซึ่งคงต้องจับตาดูว่าจะสามารถทำให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ได้เคยทำไว้ในต่างประเทศได้หรือไม่ 

 

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

 “ตลาดรถยนต์มือสอง มีมูลค่าประมาณ 75,000,000,000 (คำนวณจากจำนวนรถ 1.5 ล้านคัน คันละ 500,000 บาท) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์มือสอง คือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ สภาพรถและราคา รวมไปจนถึงนโยบายการจัดสินเชื่อของสถาบันการเงินและนโยบายภาครัฐ 

 

ทั้งนี้พบว่าผู้นำในตลาดรถยนต์มือสอง จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มียอดขายเดือนละ 100 คันขึ้นไป มีเงินทุนเพียงพอ  มีรถยนต์ในสต๊อกจำนวนมากเพียงพอให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ มีบุคลากรที่ชำนาญ และที่สำคัญคือมีพันธมิตรเครือข่ายธุรกิจและสถาบันการเงิน สนับสนุนช่วยเหลือในการทำธุรกิจ”

รุกตลาดออนไลน์ ทางรอดผู้ประกอบการรถมือสอง

นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด ว่าชีวิตติดออนไลน์มากขึ้น และแนะนำให้ผู้ประกอบการปรับตัว วางแผนการตลาดอย่างรัดกุม และชี้ให้เห็นว่าการทำตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถได้และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการได้ด้วย

 

ประมูลออนไลน์คึก ผู้เล่นหน้าใหม่เตรียมร่วมวงปีหน้า 


การตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังมาแรงในตลาดรถยนต์มือสองคือ การประมูลออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหญ่ๆ คือ Apple Auto Auction ที่ได้รับความนิยมมากในพื้นที่ภูมิภาค ราคาดี แต่แพลตฟอร์มออนไลน์ใช้งานง่าย แต่มักมีปัญหาเรื่องระบบและการเชื่อมต่อเครือข่าย ,Motto Auction ได้รับความนิยมในเขตพื้นที่กทม. มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดีที่สุด ได้มาตรฐานสากล , Union Auctionมีเครือข่ายกว้างขวางทั่วประเทศ ระบบการประมูลมีการพัฒนามาดี บริการดี และ Siam Inter Auction เป็นน้องใหม่ในตลาด มาแรงแต่แพลตฟอร์มออนไลน์ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ 

 

Apple Auto Auction ประมูลรถยนต์ออนไลน์

 

นอกจากผู้เล่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน  ในปี2565 อาจได้เห็นผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาเล่นในตลาดการประมูลออนไลน์ของไทยด้วย และพร้อมจะลุยตลาดด้วยประสบการณ์ด้านประมูลออนไลน์  เงินทุน บุคลากรมืออาชีพ และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งคาดว่าผู้เล่นที่เป็นเจ้าตลาดเดิมคงต้องมีแผนรับมืออย่างแน่นอน

 

โอกาสทองสตาร์ทอัพรุกตลาดมือสองผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2565 ราคารถยนต์มือสองยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มกลับมา แม้จะมีปริมาณรถยึดที่ทยอยเข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะเป็นปัจจัยฉุดดึงราคาอยู่ก็ตาม 

 

โดยการซื้อขายรถมือสองของไทยจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลานประมูลออนไลน์ เว็บประกาศซื้อขายรถ และ Social Commerce เช่น Facebook  รวมถึงสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายรถออนไลน์ โดยมีโอกาสที่ธุรกิจสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศจะมีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถมือสองของไทยในอนาคต เนื่องจากสอดรับกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ไม่มีความชำนาญในการซื้อขายรถมือสองได้ดี 

 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ด้วยระดับเงินลงทุนที่มีอยู่จำนวนมากของสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มออนไลน์ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ หากสามารถนำมาพัฒนาเทคโนโลยีและระบบในการตรวจสอบพร้อมสร้างมาตรฐานคุณภาพรถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งระบบให้เกิดการซื้อขายรถมือสองในราคาที่ดีและเหมาะสมกับคุณภาพ ตลอดจนการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ก็จะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้จำนวนคนเข้ามาใช้บริการซื้อขายรถมือสองในแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ​

 

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า BEV กระทบรถมือสองที่ใช้น้ำมัน

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สรุปว่าตลาดรถยนต์มือสองไทยหลังโควิดมีโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้นได้แต่ไม่มาก เพราะอาจมีปริมาณรถยึดเข้าสู่ตลาดอีกมากในอนาคต ขณะที่รูปแบบการซื้อขายมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่การใช้รูปแบบออนไลน์มากขึ้นในระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดและธุรกิจเองก็มีการพัฒนาขึ้นปิดจุดอ่อนในอดีต

 

นอกจากนี้การมาของรถยนต์ BEV จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมวางแผนรับมือ แม้ในช่วงแรกจะยังไม่กระทบกับรถยนต์มือสองที่เป็นรถใช้น้ำมันมากนัก เนื่องจากรถยนต์ BEV ยังไม่เป็นที่นิยมในตลาดส่วนใหญ่ แต่เมื่อตลาดรถยนต์ BEV มือหนึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นและเป็นที่ยอมรับในตลาด ย่อมส่งผลกระทบกับความต้องการรถมือสองที่ใช้น้ำมันในอนาคตได้

 

เมื่อถึงเวลานั้น การบริหารสต๊อกรถยนต์ที่ใช้พลังงานประเภทต่างๆ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวก่อนผู้ประกอบการในต่างจังหวัด เนื่องจากน่าจะเป็นตลาดที่รถยนต์ BEV มีการเติบโตที่สูงกว่า

 

รถยนต์ไฟฟ้า