ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า นายกขอประชาชนมั่นใจ "เจอแจกจบ" แต่นายกรู้ไหมว่า ใน กทม เจอแล้วส่วนใหญ่จบเห่ ไม่มีที่ไป
นโยบายเจอแจกจบเริ่ม 1 มีนาคม 2565 ผ่านไปแล้ว 5 วัน พบว่าโรงพยาบาลสังกัด กทม. ดูจะเกียร์ว่าง แทบจะไม่มีการประชาสัม พันธ์ หรือเปิดระบบให้รับผู้ป่วยให้ได้มากๆ ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง เองก็รับเจอแจกจบได้จำนวนจำกัด เพราะอัตรากำลังเจ้าหน้าที่มีน้อย
โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยเปิดบริการแต่ปิดบัตรรับจำนวนจำกัด เช่น รามาธิบดีวันละ 200 คน จุฬา ศิริราช พระมงกุฎ ภูมิพล ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใน กทม.เองก็รับน้อย เช่นโรงพยาบาลราชวิถีรับเจอแจกจบวันละ 150 คน ส่วนคลินิกอบอุ่นที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช.ทั่วกรุงก็ยังไม่เปิดรับโควิดทุกแห่ง
คนกรุงเทพตอนนี้ เลยกลายเป็นเจอ จอด จบ คือเจอแล้วไม่มีที่ไปจะไปต่อ
จนปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องประกาศให้ 14 โรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 4,5,6 รอบ กทม เช่น รพ.สระบุรี รพ.นครปฐม รพ.สมุทรปราการ รพ.ปทุมธานี รพ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น ให้ช่วยจ่ายยาเจอแจกจบให้คน กทม.ด้วย นี่คืออีกหลักฐานสำคัญที่แสดงว่า ใน กทม. ความร่วมมือในนโยบายเจอแจกจบยังมีน้อยมาก
สายด่วน สปสช.1330 ก็โทรไม่เข้า เพราะคนโทรวันละร่วมแสนราย โดยที่ปัจจุบันแทบจะไม่มีการเปิดสายด่วนอื่นๆมาช่วยกันเลย
นี่คือชะตากรรมคนกรุงเทพที่นายกประยุทธอาจจะยังไม่รู้ ไม่มีใครมารายงาน ให้รู้ ช่างเหมือนกับหนังจีนที่ฮ่องเต้มีแต่ขันทีรอบตัวเพ็จทูลว่า "ดีครับ ได้ครับ ราบรื่นครับ ระบบพร้อมครับ ฝากนายกย้ำให้ประชาชนมั่นใจเจอแจกจบด้วยนะครับ"
เจอแจกจบ เป็นนโยบายที่ดี ที่สอดคล้องกับการระบาดของโอไมครอนที่ติดง่ายแต่ส่วนใหญ่อาการไม่มาก ในต่างจังหวัดนั้นไปได้ดี แต่ปัญหาคือ ใน กทม. แม้ประชาชนจะมั่นใจ แต่ยังไม่มีโรงพยาบาลจะรับดูแลผู้ป่วยนอกแบบเจอแจกจบที่เพียงพอ นายกประยุทธ์รับไปแก้ปัญหาอย่างด่วนด้วยนะครับ เพราะท่านตั้งมาเองนะ ผู้ว่าอัศวิน ขวัญเมือง