อาการโควิดโอมิครอนเบื้องต้นเป็นอย่างไร พบแบบไหนมากที่สุด เช็กเลย

อาการโควิดโอมิครอนเบื้องต้นเป็นอย่างไร เป็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจ หลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทรวงตัวอยู่ในระดับสูง

โดยเฉพาะเมื่อรวมกับผลตรวจ ATK ตัวเลขยิ่งสูงในระดับที่น่าตกใจ ล่าสดโควิดวันนี้รวมatk พบตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 45,398 ราย

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จึงสืบค้นข้อมูล เพื่อไขคำตอบดังกล่าว พบว่า    

สายพันธุ์ Omicron แพร่เชื้อง่ายไวกว่าเดลตา เคยติดเชื้อแล้วก็สามารถติดซ้ำได้

โดยโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า หลบภูมิคุ้มกันเก่ง แม้ว่าจะเคยติดโควิดมาก่อนแล้ว ก็สามารถติดสายพันธุ์นี้ซ้ำได้ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน อันตราย ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

อาการส่วนใหญ่ที่พบในผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน ได้แก่

• 54% ไอ
• 37% เจ็บคอ
• 29% ไข้
• 15% ปวดกล้ามเนื้อ
• 12% มีน้ำมูก
• 10% ปวดศีรษะ
• 5% หายใจลำบาก
• 2% ได้กลิ่นลดลง

(ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2564)

สำหรับแนวทางการป้องกันโควิดกลายพันธุ์นั้น   แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือ เข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้พร้อมต่อสู้ไวรัส  

หากถามว่าควรฉีดกระตุ้นเข็ม 3 เมื่อไหร่ สำหรับใครที่รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม เป็นะระยะเวลามากกว่า 3 เดือนขึ้นไป แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากโดยส่วนใหญ่พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 3-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในและภายนอกซึ่งส่งผลต่อระดับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ (Innate Immunity)

นอกจากนี้ COVID-19 มีหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังพบการกลายพันธุ์ของโควิด-19 การฉีดวัคซีนเข็ม 3 จึงเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เท่าทันต่อเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความรุนแรงหากติดเชื้อไวรัสโควิด-19

และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี แนะนำให้กระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม mRNA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบรับวัคซีนเข็ม 3 โดยเร็ว

อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยเคยติดเชื้อ COVID-19 ควรเว้นระยะห่าง 30-90 วัน หลังการรักษาหาย เนื่องจากภูมิธรรมชาติ (Innate Immunity) จะเริ่มมีการลดลง

ที่มา : โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพ