โควิดวันนี้รวมatk ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง โดยเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ และติดตาม
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
24,592
ATK 20,385
รวม 44,977
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1124 คน เป็น 1,312 คน เพิ่มขึ้น 16.72%
ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 355 คน เป็น 435 คน เพิ่มขึ้น 22.53%
บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มถึง 309 คน เป็นชาย 70 หญิง 239
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา ติดไปแล้วถึง 9,061 คน
หมอธีระ ยังโพสต์อีกว่า
ดูแนวโน้มการระบาดในปัจจุบัน
ทวีปยุโรปกลับมาขาขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ยกเลิกมาตรการป้องกัน
เทียบกันดูทั่วโลกจะพบว่าตอนนี้มีทวีปยุโรปและเอเชียที่ไต่ขึ้น ทั้งนี้ยุโรปคือการกลับมาระบาดรุนแรงซ้ำ
ส่วนเอเชียนั้นยังเป็นระลอก Omicron ที่เริ่มช้ากว่าทวีปอื่นและยังไม่ได้ลงจากยกแรก
หากลองพล็อตดูตามระดับรายได้ จะพบว่าขาขึ้นอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้สูง (high income) และกลุ่มรายได้ปานกลางระดับล่าง (lower middle income)
สิ่งที่น่าคิดคือ หากไทย เป็น upper middle income country แต่การระบาดยังรุนแรง กระจายทั่ว ยังควบคุมโรคไม่ได้ ดังที่เห็นจากจำนวนติดเชื้อและรวมกับจำนวน ATK แต่ละวัน
โดยยังมีจำนวนเสียชีวิตแบบในปัจจุบัน ก็คงต้องระวังให้ดี หากก้าวเดินตามแนวทางของประเทศรายได้สูงที่ไม่ได้ป้องกันโรคอย่างเพียงพอ การระบาดก็จะปะทุรุนแรงขึ้นได้รวดเร็วกว่าเค้า เพราะระดับฐานการติดเชื้อปัจจุบันสูงมาก และจะนำมาซึ่งการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ปัญหาหนักคือ ทุนทางเศรษฐกิจของไทยไม่เท่ากับกลุ่มประเทศรายได้สูง ผลกระทบจากการระบาดที่จะรุนแรงขึ้นอาจทำให้ยากในการรับมือ
ยังไม่รวมเรื่อง Long COVID ที่จะตามมาในระยะยาวอีกด้วย
ภาวะปกติที่เราควรทำให้เกิดขึ้นคือ ภาวะปกติที่ปลอดภัยและดีกว่าอดีต ไม่ใช่ภาวะปกติในอดีตที่อันตราย
ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน กิจกรรมหรืองานประเพณีวัฒนธรรม และการทำมาหากิน