วัคซีนต้านโควิด19 ถือเป็นอาวุธสำคัญในการป้องกันโควิด-19 (Covid-19) โดยเฉพาะการฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC) โดยมีข้อความระบุว่า
เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน องค์การอนามัยโลกเพิ่งจะกลับลำ
แนะนำให้ประเทศต่างๆ เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังได้ครบโดสแล้ว (เดิมทีองค์การอนามัยโลก แนะนำให้ฉีดครบโดสก็เพียงพอแล้ว เพื่อที่จะมีวัคซีนเหลือพอแจกจ่ายให้ประเทศที่ยากจนได้เข้าถึงวัคซีน)
ข้อมูลปัจจุบันการฉีดเข็มกระตุ้นหลังได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 3 เดือน
ช่วยลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตโดยเฉพาะคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์
คนสูงอายุไทยได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 30% เท่านั้น
นอกจากนี้มีคนสูงอายุมากถึง 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
หญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 7% เท่านั้น
เกือบ 50% ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก
วิธีลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิตที่ได้ผลดีที่สุด คือการเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนกลุ่มเสี่ยงให้ครบโดสมากที่สุดอย่างน้อย 90%
และฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้อย่างน้อย 60%
และฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 60
วัคซีนเข็มกระตุ้นควรเป็นวัคซีนชนิด mRNA (ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา) มีประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัย คนที่ไม่ได้ฉีดส่วนใหญ่เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
และกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน ปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนชนิดนี้มากเพียงพอสำหรับคนไทยแล้ว