อัพเดท คดีแตงโม กรณีการชันสูตรศพรอบ 2 ล่าสุด ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ผลการชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 ของแตงโมหลังจากถูกส่งมาผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ได้ร่วมกันมอบผลการชันสูตรอย่างละเอียดให้ทนายเดชาอย่างเป็นทางการเพื่อที่จะนำไปมอบให้กับแม่แตงโม หากเป็นประโยชน์ก็จะมอบให้พนักงานสอบสวนในการประกอบสำนวนคดี
การผ่าสูตรพริกศพครั้งนี้เป็นการทำตามข้อเรียกร้อง 11 ข้อที่มีการร้องขอจากญาติ บางเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน บางเรื่องสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจได้ผ่าพิสูจน์ไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้เชิญมาร่วมฟังบรรยายสรุป ได้รับคำตอบว่า มีการผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอนถูกต้องอย่างเรียบร้อย ซึ่งการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 นั้นมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง
ทั้งในเรื่องของสภาพศพที่มีการเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่ต้องส่งให้มอบการผลการผ่าชันสูตรให้กับญาตินั้น เพราะจากการผ่าตัดหลักสูตรครั้งนี้เป็นการผ่าโดยการร้องขอจากญาติไม่ใช่พนักงานสอบสวนจึงต้องส่งมอบผลการชนะสูตรทั้งหมดให้กับญาติแทน โดยการผ่าครั้งนี้ได้พาไปทั้งหมด 11 อย่างซึ่งเปิดเผยได้บางส่วน เช่น
ศรีษะจากการผ่าชันสูตรไม่พบบาดแผล / ใบหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการผ่าครั้งแรกเพราะเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย / ลำคอของผู้ตายที่สวมสร้อยอยู่ พอเวลาผ่านไปก็เกิดอาการบวมของร่างกายพอผ่าพิสูจน์ก็ไม่พบว่ามีการถูกรัดคอแต่อย่างใด / หน้าอกใต้ลำคอมีการเอาเนื้อเหยื่อไปตรวจสอบด้วย / บาดแผลที่ขามีทั้งหมด 22 บาดแผล / เล็บมือ ตอนศพมาถึงมีการตัดไปตรวจแล้วและมีการตรวจซ้ำว่ามีการต่อสู้หรือไม่ / แผ่นหลังไม่พบว่ามีบาดแผล มีการตัดเนื้อเยื่อไปตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด / หลอดลม / อวัยวะเพศ การตรวจสอบนำสารคัดหลั่งไปตรวจ / ตรวจซีทีสแกนทั้งหมดไม่พบร่องรอย / ตรวจฟันไม่พบฟันหัก / เสื้อผ้าผู้ตายที่สวมใส่
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า วันที่ 15 มีนาคม มีการประชุมมีมติให้มีการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ซึ่งกฎหมายนั้นสามารถให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำได้จนมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาและวันที่ 17 มีการผ่าพิสูจน์ร่วมกันจากแพทย์หลายสถาบัน จนถึงวันนี้ถึง 31 มีนาคมรวมทั้งหมด 15 วัน
สิ่งที่ล่าช้านั้นต้องรอผลจากห้องแล็ปต่างๆ ซึ่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วโดยข้อเรียกร้อง 11 ข้อนั้นมีการทำเสร็จสิ้นทั้งหมดแต่มีบางข้อที่ไม่สำเร็จเพราะสภาพศพมีการเปลี่ยนสภาพและสภาพศพเปลี่ยแปลงไป ซึ่งอาจจะเปิดเผยไม่ได้ แต่อยู่ในรายงานการตรวจพิสูจน์เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ยืนยันว่าการผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่สองเป็นการผ่าพิสูจน์ตามคำเรียกร้องจากญาติ ไม่ใช่พนักงานสอบสวน ทำให้ต้องส่งรายงานทั้งหมดให้กับญาติตามที่ได้มีการส่งเรื่องร้องขอมา
ผศ.วรวีย์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงบาดแผลที่ต้นขาขวาของแตงโม ว่าบาดแผลดังกล่าวไม่สามารถตอบมาให้ชัดเจนได้ว่าบาดแผลที่ต้นขาขวานั้นเกิดขึ้นจากวัตถุอะไร พนักงานสอบสวนจะไปพิสูจน์หาบาดแผลในการประกอบสำนวนคดี ขณะที่ในเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์ที่มีข้อสงสัยว่าทำไมตรวจในคนที่ยังมีชีวิตอยู่กลับไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พอตรวจในคนเสียชีวิตกลับพบแอลกอฮอล์ในเลือดนั้น
คุณหมอผ่าศพชี้แจงว่า เพราะแอลกอฮอล์ถูกขับออกโดยลมหายใจ และถ้าหากเสียชีวิตไปแล้วจะสามารถตรวจเจอแอลกอฮอล์ได้ แต่ในคนที่มีชีวิตอยู่แอลกอฮอล์จะถูกขับออกมาตามลมหายใจ ซึ่งผ่านไปหลายชั่วโมงก็จะไม่สามารถตรวจได้พบตามหลักทางการแพทย์อยู่แล้ว ขณะที่การตรวจผ้าอนามัยเพื่อหายูเรียในน้ำปัสสาวะนั้น หากผ้าอนามัยมีการซึมซับยูเรียไว้ก็จะตรวจเจอ แต่หากมีการแช่น้ำไว้เป็นเวลานาน ยูเรียก็จะถูกชะล้างออกไปทำให้บางครั้งก็จะไม่สามารถตรวจเจอได้
ทนายเดชากิตติ วิทยานันท์ ระบุว่าว่าได้รับเอกสารเป็นทางการ เป็นรายละเอียดในเรื่องการผ่าชันสูตร โดยหลังจากนี้จะกลับไปปรึกษาตำรวจดูว่าผลการผ่าชันสูตรต่างๆ เป็นประโยชน์ในการแจ้งข้อหาเพิ่มกับใครหรือไม่ หรือว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือประมาทก็จะให้ตำรวจพิจารณาดู รวมไปถึงบาดแผล 22 บาดแผล ว่าจะมีประโยชน์ในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มหรือไม่ โดยจากการที่ได้ฟังรายงานแบบย่อพบว่าผลการชันสูตรพลิกศพครั้ง 2 ส่วนใหญ่ตรงกัน แต่ต้องไปดูในรายละเอียดที่สำคัญว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง จากนั้นก็เตรียมที่จะปิดคดีแล้ว
"ในวันนี้เป็นคดีประมาท แต่ต่อไปอาจมีหลักฐานเพิ่มก็อาจมีข้อหาอื่นๆก็เป็นได้สำหรับข้อกังวลว่าจะถูกแม่ปลดไหม คงไม่ถูกปลดเพราะมีความสัมพันธ์กับแม่ที่ดี ส่วนปอกับเบิร์ตไม่เคยประสานมาจะพูดคุยความจริงอะไร"