รัฐบาลไฟเขียวจัดหายาแอนติบอดี LAAB สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง

09 เม.ย. 2565 | 18:00 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2565 | 20:39 น.

รัฐบาลไฟเขียวจัดหา ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (LAAB) สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง โดยปรับสัญญากับบริษัท AstraZeneca เปลี่ยนการจัดหาวัคซีนบางส่วนเป็นยาแอนติบอดีฯ ทำให้ไม่ต้องใช้งบฯ เพิ่ม

รัฐบาลเห็นชอบแผนจัดหา ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว Long- Acting Antibody (LAAB) สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่ไม่สามารถ “กระตุ้นภูมิ” ด้วยวัคซีนได้ โดยเปลี่ยนจากวัคซีน AstraZeneca บางส่วนในกรอบวงเงินที่ ครม. อนุมัติแล้ว

 

รัฐบาลไฟเขียวจัดหายาแอนติบอดี LAAB สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบแผนการจัดหา ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว Long-Acting Antibody (LAAB) สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่ภูมิคุ้มกันต่ำ แต่ไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนได้

โดยมีรายละเอียดคือ

 

1. เป็น Antibody ชนิด long-Acting Antibody มีส่วนประกอบ 2 ชนิด (150 mg tixagemab co-packaged with 150 mg cilgavimab)

 

2.ผ่านการรับรองใช้แบบฉุกเฉิน EUA โดย US FDA เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564

 

3. ขึ้นทะเบียนยาโดยบริษัท AstraZeneca ประเทศอังกฤษเมื่อเดือนมิถุนายน 2564
และมีข้อบ่งใช้ในกลุ่มเป้าหมายผู้มีความเสี่ยงสูงที่ภูมิคุ้มกันต่ำ โดยให้ก่อนการสัมผัสโรค ด้วยการฉีดเข้ากล้ามทุก 6 เดือน ซึ่งภูมิต้านทานสามารถป้องกันโควิด19 ได้ 6 -12 เดือนต่อการให้ 1 ครั้ง สามารถลดความเสี่ยงของอาการรุนแรงของโควิด 19 สายพันธุ์ Omicron subvariants BA.1 BA.2 และ BA.1.1 ได้ 83%

 

สำหรับกระบวนการจัดหานั้น อัยการสูงสูงสุดแนะนำให้ปรับสัญญากับบริษัท AstraZeneca ด้วยการเปลี่ยนจากวัคซีน AstraZeneca บางส่วน โดยอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ ครม. อนุมัติแล้วและไม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่ม