สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการขึ้นทะเบียนใช้งานในกรณีฉุกเฉิน (EUA) ให้กับวัคซีน Covovax /Recombinant Spike Protein of SARS-CoV-2 Virus 5 mcg เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โนวาแวกซ์ คืออะไร?
- โนวาแวกซ์ (Novavax) หรือ NVX-CoV2373 ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
- ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบใช้โปรตีนเบส (Protein-nanoparticle Vaccine) แทนการใช้เชื้ออ่อนหรือเชื้อที่ตายแล้ว
- เป็นการเพาะโปรตีนใหม่ขึ้นมา และใช้ชิ้นส่วนโปรตีนของโคโรน่าไวรัสมาผลิต ร่วมกับเซลล์ของผีเสื้อกลางคืน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเซลล์ของมนุษย์
- ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีโปรตีนส่วนหนามของไวรัสจำนวนมาก จากนั้นจึงนำโปรตีนส่วนหนามของไวรัสมารวมกับสารกระตุ้นภูมิต้านทาน และฉีดเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสขึ้นมา ด้วยวิธีนี้จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่า 3,000 titers
- ถือเป็นหนึ่งในวัคซีนหลักของโครงการ COVAX ที่จะส่งให้ประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วโลก
- มีรายงานผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ได้สูงถึง 90%
ข้อดีของวัคซีนโนวาแวกซ์
- เลือกใช้โปรตีนบริสุทธิ์ ทำให้มีประสิทธิภาพ และร่างกายสามารถเข้าถึงสารได้ง่าย
- เลือกใช้หนามของโควิดในการทำวัคซีน ทำให้ร่างกายจดจำหนามของโควิด
- สร้างแอนติบอดีขึ้นมาบริเวณโปรตีนส่วนหนาม ทำให้เชื้อโควิดไม่สามารถเกาะติดกับเซลล์ของมนุษย์ได้ ทำให้ความรุนแรงของไวรัสลดลง
การจัดเก็บ
- ไม่จำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำมาก
- สามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ 2-8 องศา ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่าวัคซีนประเภท mRNA อย่างไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ทำให้อาจจะเกิดปัญหาด้านการขนส่งได้
- นักวิจัยสามารถเปลี่ยนชนิดโปรตีน เพื่อรองรับไวรัสกลายพันธุ์ที่อาจดื้อยาได้ ทำให้สามารถพัฒนาวัคซีนให้มีประสิทธิภาพสู้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้
การฉีด
- 2 โดส (เข็ม) โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อทั้งสองเข็ม ห่างกัน 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์
อายุในการฉีด
- สามารถฉีดได้คนที่มีอายุตั้งแต่ 18-84 ปี และสามารถฉีดได้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว
ประสิทธิภาพของวัคซีนโนวาแวกซ์
- เริ่มการศึกษาทดลองระยะแรกสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 และทำการศึกษาทดลองครั้งที่ 2 และ 3 ในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย เม็กซิโก
- ป้องกันโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดี
- ป้องกันความรุนแรงของโรคโดยรวมได้ 90.4%
- ป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้ 100%
- ป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ 96.4%
- ป้องกันเชื้อสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) ได้ 89.7%
- ป้องกันสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ได้ 55%
- สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) อยู่ระหว่างการศึกษา
ผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนโนวาแวกซ์
- จะมีอาการคล้ายกับวัคซีนชนิดอื่น
- มีไข้ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- อ่อนเพลีย
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด
- บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ
- อาการของผลข้างเคียง อาจจะต้องติดตามและศึกษาดูอีกครั้ง หลังจากได้ฉีดให้กับประชากรในจำนวนที่มากขึ้น
ข้อห้ามสำหรับการฉีดวัคซีนโนวาแวกซ์
- ห้ามฉีดในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ห้ามฉีดให้แก่ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์
- ห้ามฉีดให้แก่ผู้ที่มีอาการแพ้วัคซีนรุนแรงจากครั้งก่อน ๆ
- ห้ามฉีดให้แก่ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีน
- ห้ามฉีดให้แก่ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้รุนแรง
ข้อมูลอ้างอิง : โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม