หลายวันมานี้หลายคนคงได้เจอกับอากาศร้อน ๆ เหงื่อแตกซิก เรียกว่าเป็นบรรยากาศสุดคลาสสิกฉบับเมืองไทยที่มีมาฝากกันเป็นประจำทุก ๆ เดือนเมษายน แน่นอนว่าด้วยอากาศที่ร้อนจนละลายนี่เอง ทำให้หลายคนเลือกที่จะอยู่ในบ้านเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำท้าทายบิลค่าไฟ ซึ่งหารู้ไม่ว่า การทำอย่างนี้ อาจทำให้กระเป๋าสตางค์ของคุณฉีกแน่ ๆ ในช่วงสิ้นเดือน
ดังนั้นเพื่อไม่ให้หลายคนต้องทนทุกข์กับบิลค่าไฟสุดโหดที่กำลังจะเดินทางมาเยือนในไม่ช้า เราได้รวบรวมมีวิธีเปิดแอร์ อย่างไรในช่วงหน้าร้อน ที่ทำยังไงให้ประหยัดไฟมากที่สุด ซึ่ง การไฟฟ้านครหลวง ได้มีการแนะนำข้อมูลที่น่าสนใจ ไปดูกันเลยว่า มีเทคนิคอย่างไรบ้าง
- เปิดแอร์ 26 องศาเซลเซียล แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส ให้เปิดพัดลมช่วย
- ล้างแอร์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยล้างก่อนหน้าร้อน 1 ครั้ง
- ไม่ใช้อุปกรณ์ทำความร้อน ในห้องแอร์ เช่น ไม่ควรรีดผ้าในห้องแอร์ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น
- ตั้งเวลาปิดแอร์ให้เร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง ช่วยประหยัดไฟได้
ขณะเดียวกันยังมีคำถามถึงการไฟฟ้านครหลวง ว่า อากาศยิ่งร้อน แอร์ยิ่งกินไฟ…จริงหรือไม่?
จากการทดสอบโครงการวิจัยผลกระทบของอุณหภูมิแวดล้อมกับการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ จัดทำโดย ฝ่ายวิจัยและพัฒนา การไฟฟ้านครหลวง และ โครงการวิจัยและพัฒนาความชำนาญด้านไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบข้อมูลดังนี้
- ช่วงฤดูร้อนจะมีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุดในรอบปี
- เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททำความเย็นจะทำงานหนักในฤดูร้อนมากกว่าฤดูอื่น ๆ แม้เปิดใช้งานเท่ากัน และตั้งค่าแบบเดียวกัน
- อุณหภูมิภายนอกบ้านที่สูงขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้แอร์ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างน้อย 3%
- ข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า การตั้งอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้นทำให้ประหยัดค่าไฟได้เพิ่มมากขึ้น
นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง มีข้อแนะนำการประหยัดไฟฟ้า ในช่วงฤดูร้อน ว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีดังนี้
- ควรหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า โดยยึดหลัก “ปิด - ปรับ - ปลด - เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้
- ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่จะเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงาน
- เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง
- หมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
- ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน
- เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ
- พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม
- ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น
- ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5)
- ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
- ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน
- หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- ติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ดังนี้