16 เมษายน 2565 - PCT POLICE ระบุว่า ทุกวันนี้ "ธนาคารออนไลน์" หรือ อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking ) เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแทบจะแยกไม่ออก โดยกลายเป็นช่องทาง ทั้งชำระเงิน ช้อปปิ้ง สั่งอาหาร จ่ายน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อ การใช้งานแอปพลิเคชั่นธนาคาร มีความสะดวกรวดเร็วมาก ย่อมตามมาด้วยความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะ กลุ่มมิจฉาชีพ ที่โทรศัพท์เข้ามา และอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อหลอกให้เราทำโอนเงินบนแอปพลิเคชั่นธนาคาร โดยบางรายรู้เท่าไม่ทันการณ์ กดโอนเงินให้จนหมดตัว
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย จึงต้องการแนะนำ 12 วิธีใช้งานธนาคารออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย ดังนี้
- ไม่ควรใช้รหัสผ่าน (password) ที่ง่ายต่อการคาดเดา เช่น 123456 หรือ วัน/เดือน/ปีเกิด
- ก่อนเข้าใช้ ธนาคาร ออนไลน์ จะต้องมั่นใจหรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้นั้นไม่มีมัลแวร์ (Malware) แฝงอยู่
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ถูกกฎหมาย พร้อมตรวจสอบและอัปเดตโปรแกรมอยู่เสมอ
- ไม่ติดตั้งหรือดาวน์โหลดโปรแกรมแปลก ๆ หรือโปรแกรมที่ไม่ถูกกฎหมาย เพราะอาจเป็นช่องทางให้มัลแวร์เข้ามาในคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตได้
- ไม่ใช้ลิงก์เชื่อมโยงที่มากับอีเมลหรือในเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์ แต่ควรพิมพ์ URL ด้วยตัวเอง
- ไม่ทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ แต่หากจำเป็น ให้เปลี่ยนรหัสผ่านหลังจากใช้งานทันที
- ตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวในบัญชี และการเข้าใช้ระบบ ธนาคาร ออนไลน์ อยู่เสมอ ว่าเป็นรายการที่ได้ทำไว้หรือไม่
- ควรออกจากระบบ (logout) ทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
- จำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมผ่าน ธนาคาร ออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีถูกมิจฉาชีพขโมยรหัสผ่าน
- ธนาคารไม่มีนโยบายส่ง SMS หรือ email เพื่อให้ดาวน์โหลด ติดตั้งโปรแกรม หรือเข้าสู่ระบบ ธนาคาร ออนไลน์
- หากคลิกลิงก์ต้องสงสัย ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคารทันทีและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานที่ปลอดภัย
- ติดตามข่าวสารกลโกง ธนาคาร ออนไลน์ เป็นประจำ เพื่อรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง