โควิดวันนี้รวมatk ตัวเลขยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)ที่ติดต่อได้ง่าย และรวดเร็ว
ร.ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1,971 คน เป็น 2,049 คน เพิ่มขึ้น 3.95%
ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 834 คน เป็น 902 คน เพิ่มขึ้น 8.15%
จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ มากกว่าสัปดาห์ก่อน 15.04% แต่น้อยกว่าสองสัปดาห์ก่อน 14.43%
บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 331 คน (ชาย 61, หญิง 270) โดยจังหวัดที่บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับแรกคือ
กรุงเทพฯ 69, ชลบุรี 36, ตามมาด้วยศรีสะเกษและอุบลราชธานี 27
หมอธีระ ยังโพสต์ด้วยว่า
จุดพลิกผันของการระบาดทั่วโลกตอนนี้น่าจะอยู่ที่จีนและประเทศในเอเชียที่ยังระบาดรุนแรง รวมถึงไทย
ผลลัพธ์ของเอเชียในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนคือ ไตรมาสที่จะกำหนดภาพในครึ่งหลังของปีนี้ของโลก
เหนืออื่นใด สำหรับประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องทราบว่า ศิลปะในการอยู่รอด
ท่ามกลางสถานการณ์แปรปรวนไม่แน่นอนในโลกแห่งการเชื่อมต่อกันเช่นนี้คือ
"การไม่ด้อยค่าไวรัส"
เมื่อใดที่ปรามาสว่ากระจอก เอาอยู่ กรูแน่
เมื่อนั้นก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ย่อมเสี่ยงต่อการเจ็บซ้ำซาก เรื้อรัง และสูญเสียตามมาในไม่ช้า
ณ วันนี้เด็กอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปเพียง 49.5%
และได้รับเข็มที่สองไปเพียง 4%
ในขณะที่ภาพรวมทั้งประเทศ มีคนได้รับเข็มกระตุ้นไป 36%
ถ้าดูเฉพาะคนสูงอายุ ได้เข็มกระตุ้นไป 39.4%
ด้วยสถานการณ์ความครอบคลุมของวัคซีนที่จำกัด นโยบายและมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค เพื่อกดการระบาดให้ลดลง จึงมีความสำคัญมาก
ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการจัดการสถานการณ์ระบาด
จึงทำให้สถานการณ์ของไทยยังคงสวนกระแสโลก ทั้งในเรื่องจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวัน และการเสียชีวิต
และคงจะลำบาก หากผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะยอมให้ทำตามแผนการเปิดประเทศ ผ่อนคลายกิจกรรม และอื่นๆ โดยที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไม่พร้อม
ก้าวทีละก้าว อย่างมั่นคง...จะไม่เสี่ยงต่อการหกล้ม บาดเจ็บ และสูญเสีย