รายงานโควิดวันนี้รวม atk ยังคงเป็นตัวเลขของการติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง และเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ และติดตาม
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
27 เมษายน 2565
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบลดลงจาก 2,049 คน เป็น 1,822 คน ลดลง 11.07%
ใส่ท่อช่วยหายใจลดจาก 902 คน เป็น 850 คน ลดลง 5.76%
จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ น้อยกว่าสัปดาห์ก่อน 36.9% แต่น้อยกว่าสองสัปดาห์ก่อน 27.41%
บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 303 คน (ชาย 63, หญิง 240) โดยจังหวัดที่บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ 88, ขอนแก่น 59, อุบลราชธานี 34
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 จนถึงบัดนี้ บุคลากรทางการแพทย์ติดไปแล้วถึง 25,021 คน
มากกว่าระลอกหนึ่ง (สายพันธุ์ดั้งเดิม) ระลอกสอง (สายพันธุ์ D614G) และระลอกสาม (อัลฟ่าและเดลตา) รวมกัน 9,162 คน ถึง 2.73 เท่า หรือ 173%
ทั้งๆ ที่ระลอก Omicron นี้มีระยะเวลาผ่านมาเพียงไม่ถึง 4 เดือน สั้นกว่าทุกระลอกรวมกันถึง 6 เท่า
ปัญหาระยะยาวที่จะเป็นสึนามิตามมาคือ Long COVID
การป้องกันตัว ไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
หมอธีระ ยังโพสต์ด้วยว่า
อัพเดตสถานะการศึกษาวิจัยวัคซีนทั่วโลก
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยแพร่เอกสารสรุปสถานะการศึกษาวิจัยวัคซีนทั่วโลก ล่าสุดเมื่อวานนี้ 26 เมษายน 2565
ขณะนี้มีวัคซีนทดลองที่กำลังศึกษาทางคลินิก (clinical development) 153 ตัว
และที่กำลังศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการ (pre-clinical development) 196 ตัว
สำหรับวัคซีนที่กำลังศึกษาทางคลินิกนั้น ส่วนใหญ่เป็นชนิด Protein subunit 34%
ตามมาด้วยชนิด RNA 18% ชนิด Viral vector 14% และชนิดเชื้อตาย 14%
ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นวัคซีนชนิดฉีด (84%) โดยเป็นประเภทต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 77%
ทั้งนี้มีการศึกษาจำนวนน้อยสำหรับวัคซีนประเภทที่ต้องฉีดเข้าในหนัง (intradermal) ใต้ผิวหนัง (subcutaneous) พ่นเข้าจมูก (intranasal) สูดดม (inhaled) และประเภทละอองฝอย (aerosol)
วัคซีนส่วนใหญ่มักต้องมีการรับวัคซีนในการศึกษาวิจัยจำนวน 2 ครั้ง (58%)