6 พฤษภาคม 2565 เฟซบุ๊ก World Health Organization Thailand โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ภาวะลองโควิด (Long Covid) โดยระบุว่า หลักฐานปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า ราวร้อยละ 10-20 ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะประสบกับ "กลุ่มอาการหลังโควิด-19" หรือที่เรียกว่า "ลองโควิด" อันประกอบด้วยอาการเรื้อรังมากมายซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เรามีในขณะนี้แสดงให้เห็นว่า อาการลองโควิด มีความสัมพันธ์กับอาการป่วยที่รุนแรงจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นก่อนหน้า โดยทั่วไป อาการลองโควิด จะเริ่มขึ้นหลังจากที่ผู้ป่วยเริ่มฟื้นตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 แบบรุนแรงเฉียบพลันแต่ก็สามารถเกิดขึ้นในลักษณะที่ต่อเนื่องจากอาการป่วยที่มีมาแต่ต้นได้ด้วย
อาการลองโควิด เกิดขึ้นและหายไปตามกาลเวลา และในบรรดาอาการที่พบกว่า 200 อาการ 3 อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ หายใจไม่อิ่ม, สมองล้า และอ่อนเพลีย
ขณะที่ 3 เดือนหลังจากที่คุณได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อโควิด-19 แบบรุนแรงเฉียบพลัน หากคุณยังหายใจลำบาก สมองล้า หรืออ่อนเพลีย คุณอาจจะกำลังประสบกับ อาการลองโควิด และควรปรึกษาแพทย์ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญแม้คุณจะรู้สึกว่ารับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยอื่น ๆ ซึ่งต้องได้รับการรักษาที่ต่างออกไป
ทั้งนี้ เรายังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับอาการทั้งหมดและระยะเวลาของลองโควิด หลักฐานปัจจุบันบ่งชี้ว่า ลองโควิดอาจกินเวลาอย่างน้อย 2 เดือน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการนานถึง 6 เดือน 1 ปี หรือนานกว่านั้น
นอกจากนี้เรายังพบความผิดปกติของปอด อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย ลิ่มเลือด และการเสียชีวิต ในระยะเวลา 1 ปีหลังจากเริ่มมีอาการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลองโควิดเป็นกลุ่มอาการที่กว้างมากและกระทบกับหลายระบบในร่างกาย เราจึงไม่มียาหรือวิธีรักษาเฉพาะ
หากอาการไม่รุนแรงผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองเพื่อยกระดับสุขภาวะของตนได้ เช่น ลดกิจกรรมเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าหรือหายใจไม่อิ่ม และหากมีปัญหาด้านการควบคุมสมาธิ ให้ค่อยๆ จดจ่อกับงานทีละชิ้น
ถ้าหากอาการเหล่านี้กระทบต่อชีวิตของคุณอย่างมาก หรือหนักขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป องค์การอนามัยโลกแนะนำให้พบแพทย์ ซึ่งอาจแนะนำให้คุณเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ