ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 พ.ต.อ.สาธิต จันศร อดีตผู้กำกับการ (ผกก.) กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จังหวัดยะลา อดีตจำเลยคดีบุกรุกแผ้วถางที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่ต่อสู้คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาเมื่อ 19 มกราคม 2565 สั่งยกฟ้อง ให้จำเลยทั้งหมดพ้นผิด เปิดเผยว่า ตนครอบครองที่ดินโดยถูกต้อง เมื่อเข้าทำประโยชน์ ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งตน บุตรชาย บุตรสาว มาตั้งแต่ปี 2559
จนถึงตอนนี้คดีถึงที่สุด ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยมีคำวินิจฉัยว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินตาม สค.1 เลขที่ 134 แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดที่ดินถูกดำเนินคดี ในขณะที่ที่ดินอีกแปลงก็อ้างว่าออกโฉนดตามส.ค.1 เลขที่ 134 จึงเป็นการประกาศผิดที่ผิดแปลง เป็นการรุกที่ดินอุทยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ดำเนินการอะไรเลย
พ.ต.อ.สาธิต กล่าวอีกว่า จึงขอฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่บุกรุกที่ดินให้ถึงที่สุด ให้เหมือนกับที่ดำเนินคดีกับผมและและบุตรชาย บุตรสาว หากรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงที่กล่าวมายังไม่ดำเนินการ ตนจำเป็นต้องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ คนที่บุกรุกที่ดินอุทยาน ตลอดทั้งเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นเป็นใจ ในการประกาศแจกโฉนดในที่ดินตรงนี้ เพื่อให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย อดีตผกก.ย้ำ
คดีนี้พ.ต.อ.สาธิต จันศร อดีตผู้กำกับการ (ผกก.) กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นจำเลย ในคดีบุกรุกแผ้วถางที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หมู่ที่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อปี 2559 เมื่อชุดพญาเสือนำโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุด พร้อมนายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าหน้าที่ชุด กอ.รมน.ตรัง ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ รวม 200 นาย เข้าทำการจับกุมนายธรวัชร จันศร สถาปนิก ลูกชายพ.ต.ท.สาธิต จันศร รองผกก.(ยศขณะนั้น) ขณะที่เข้าทำประโยชน์ในที่ดินแปลง สค.1 เลขที่ 133
ต่อมาอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แจ้งความตำรวจพนักงานสอบสวนสภ.สิเกา ให้ดำเนินคดี พ.ต.ท.สาธิต จันศร รองผกก.ขณะนั้นยังรับราชการ พร้อมด้วยนางสาวธิตาพร จันศร และนายวินัย กิ่งเกาะยาว ตกเป็นผู้ต้องหาด้วย รวม 4 คน
คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.สิเกา สั่งไม่ฟ้อง พนักงานอัยการจังหวัดตรังก็สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ด้วยเหตุผลว่า ผู้ต้องหามีสค.1 เลขที่ 133, 134,135 เข้าทำประโยชน์มาก่อน แต่อธิบดีอัยการภาค 9 กลับมีคำสั่งให้พนักงานอัยการจังหวัดตรัง ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่อศาลจังหวัดตรัง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันบุกรุกแผ้วถางยึดถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย”
คดีนี้ศาลจังหวัดตรัง(ศาลชั้นต้น)พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน ให้พ้นความผิด โดยเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นพยานโจทก์ ไม่สามารถนำสืบหรือมีพยานหลักฐานเพียงพอ ในการกล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 4 คนว่ากระทำความผิดตามฟ้อง อีกทั้งจำเลยอ้างมี สค.1 จำนวน 3 แปลงเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เจ้าหน้าที่ดินอำเภอสิเกา กรมที่ดิน ซึ่งมาเป็นพยานศาล ยืนยันว่า สค.1 ทั้ง 3 แปลงดังกล่าว “ยังมีสิทธิตามกฎหมาย มีความสมบูรณ์ ไม่ถูกยกเลิกเพิกถอน หรือจำหน่ายออกจากทะเบียนการครอบครอง” สามารถเข้าทำประโยชน์ได้ ศาลจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้จำเลยทั้ง 4 พ้นผิด
ต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งยกฟ้อง ให้จำเลยทั้ง 4 คนพ้นผิด เมื่อ 19 ม.ค.2565 คดีนี้พนักงานอัยการศาลสูงภาค 9 ไม่ยื่นศาลฎีกา เพราะต้องห้ามด้วยข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ ป.วิ.อาญา มาตรา 220 เป็นอันคดียุติไม่สามารถฎีกาได้
หลังเสร็จสิ้นคดี พ.ต.อ.สาธิต จันศร อดีตผกก. ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาดเจ้าไหม หมู่ที่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง และเปิดโปงว่ามีขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมมือกับกลุ่มนายทุนบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม 21 ไร่เศษ โดยอ้างเอา สค.1 เลขที่ 134 ของตนเอง มีเนื้อที่ 30-0-0ไร่ มาออกเป็นโฉนด หน้าสำรวจ 3600 ใบไต่สวนมี 2 ใบ ออกโฉนด 2 แปลง คือ แปลงเลขที่ 29 เนื้อที่ดิน 9-1-94.5 ไร่ แปลงเลขที่ 30 เนื้อที่ดิน 12-0-95.5 ไร่ และใบไต่สวนตามประกาศของสำนักงานที่ดินอำเภอสิเกา กรมที่ดิน แจกโฉนดให้นายทุนคนหนึ่ง ประกาศแจกโฉนดตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2562 แต่ไม่กล้าแจก
โดยที่ดินแปลงนี้อ้างสค. 1 เลขที่ 134 ของตน ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ แต่บินมาออกบริเวณทิศใต้ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เนื้อที่กว่า 20 ไร่ โดยมีการปักเสาคอนกรีตและลวดหนาม กั้นเต็มบริเวณติดชายหาด โดย สค.1 เลขที่ 134 ของตนเป็นฉบับตัวจริง ส่วนของกลุ่มนายทุนเป็นสค.1 ที่ถ่ายเอกสาร นำมาขอออกโฉนดที่ดินตั้งแต่ปี 2562
"เจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ที่อ้างสค. 1 เลขที่ 134 ของตนมาออกโฉนดได้อย่างไร ทั้งที่ตนเองก็ยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินจากสค. 1 ทั้ง 3 แปลง เลขที่ 133 134 และ 135 ไว้ที่สำนักงานที่ดินสิเกาด้วยเช่นกัน แต่เมื่อตนเข้าทำประโยชน์กลับถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่อุทยาน จนศาลพิพากษาถึงที่สุดยกฟ้องให้พ้นผิด
ผมยืนยันหากอธิบดีกรมที่ดินเห็นว่าการประกาศแจกโฉนดนั้นตรงแปลง ขอให้ท่านดำเนินการแจกโฉนดต่อไป แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี ยังแจกโฉนดให้บุคคลตามรายชื่อไม่ได้ หรือหากเห็นว่าเป็นการออกโฉนดผิดที่ แสดงว่าเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ซึ่งต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเช่นกัน"อดีตผกก.กล่าวย้ำ