กรณีการโปรโมทแคมเปญโฆษณา ลาซาด้า 5.5 โดย “นารา เครปกะเทย” แสดงร่วมกับ หนูรัตน์ ธิดาพร ชาวคูเวียง ซึ่งรับบทคนนั่งรถเข็น จนเกิดกระแสวิจารณ์ หมิ่นเหม่พาดพิงบุคคล และเป็นการล้อเลียนลักษณะทางร่างกายที่เกิดจากความเจ็บป่วย ในโฆษณา
เกิดปรากฎการณ์แบนลาซาด้า โดย 3 เหล่าทัพไทย ส่งหนังสือ – ออกแถลงการณ์ กรณีลาซาด้า 5.5 ล้อเลียนผู้พิการ “รับไม่ได้” เพราะไม่ให้เกียรติและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยมีการสั่งแบน ห้ามหน่วยงานในสังกัดซื้อของ หากพบถือเป็นความบกพร่องของ ผบ.หน่วย
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุว่า ส่วนของ ตร. ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกคำสั่งแบน เพราะตำรวจ คือ ผู้บังคับใช้กฎหมายและเป็นประชาชนทั่วไป ในฐานะประชาชนทั่วไป ก็ต้องพิจารณาไตร่ตรองว่าจะปฏิบัติอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งให้ติดตามบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตั้งแต่ทราบว่ามีการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวออกไป เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างน้อย 2 ข้อหา คือ มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะมีข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
โดยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวน และสอบปากคำตัวแทนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ (ศปปส.) และได้ประสานงานกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ให้ตรวจสอบและทำการปิดกั้น URL ที่นำเสนอเนื้อหาไม่เหมาะสมไปแล้ว 49 URL ทั้งลิงค์ที่นำไปโพสต์และเผยแพร่
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นอย่างน้อย 3 ราย ทั้งบริษัทผู้ผลิตเนื้อหา บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มที่เป็นผู้เผยแพร่ รวมทั้งนักแสดง ซึ่งต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน
"เป็นประเด็นที่ผู้เสพสื่อออนไลน์เห็นอยู่แล้วว่าการกระทำดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ แม้บริษัทผู้ผลิตเนื้อหาจะมีการออกแถลงการณ์ แต่เมื่อมีการกระทำความผิดโดยเฉพาะความผิดที่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคง ก็ต้องดำเนินคดี บริษัทอาจทำเพื่อการตลาด แต่ก็ต้องดูเรื่องสิทธิและหน้าที่ด้วย ไม่ควรทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง"