นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการ่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ต่อยอดความสำเร็จโครงการห้องเรียนเคมีดาว
ซึ่ง Dow และ สมาคมเคมีฯ ได้ร่วมดำเนินงานมานานกว่า 9 ปี ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยหลักการของปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยเตรียมพร้อมขยายวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์แนวใหม่ไปยังโรงเรียนในเครือ สพฐ. ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การที่ สพฐ. ให้ความสนใจส่งเสริมการเรียนการสอนแนวใหม่ จะช่วยให้โรงเรียนจำนวนมากสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม DOW เล็งเห็นความสำคัญของการทดลองแบบ ย่อส่วนเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
โดยสพฐ. จะเป็นกำลังสำคัญในการขยายผลซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการพัฒนาบุคคลกรด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยในอนาคต
ศ.ดร. สุภา หารหนองบัว นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สมาคมฯ เป็นผู้ริเริ่มใช้เทคนิคปฏิบัติการทดลองเคมีแบบย่อส่วนในประเทศไทย โดยได้ร่วมกับ Dow ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในด้านการให้องค์ความรู้ การประยุกต์ใช้การทดลองเคมีแบบย่อส่วน มาเสริมการเรียนการสอนในโรงเรียน การส่งเสริมเรียนรู้และทดลองจริงของนักเรียนในโรงเรียน
การสร้างเครือข่ายครูต้นแบบเคมีแบบย่อส่วน เพื่อนำไปต่อยอดองค์ความรู้ได้มากขึ้น มีการร่วมกันจัดประกวดโครงงานปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนในแต่ละปีมาตลอด 7 ปี รวมทั้งยกระดับและเผยแพร่กิจกรรมในภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สมาคมฯ จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการ จัดหาบุคลากรผู้ชำนาญที่เหมาะสมกับหลักสูตรฝึกอบรม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาครูต้นแบบ
รวมทั้งยังจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในการประเมินผลการเรียนการสอนตามแนวทางการสอนแบบใหม่ของโครงการฯ
ดร. อัมพร พินะสา เลขาธิการ สพฐ. กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการศึกษา สพฐ.เห็นความสำคัญของการยกระดับการเรียนการสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ การนำเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับครูและนักเรียน สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการ
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาได้ทำการวิจัยแสดงผลของชุดการทดลองเคมีแบบย่อส่วน พบว่ามีผลเทียบเท่าห้องแล็ปปกติ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วน เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก ทำให้ลดช่องว่างในวิชาวิทยาศาสตร์ได้อีกทางหนึ่งเพราะนักเรียนจะมีโอกาสลงมือปฏิบัติจริงตามแบบเรียนในหลักสูตรที่กำหนดด้วยตนเอง สอดคล้องกับนโยบายของ สพฐ. ที่ต้องการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มสมรรถนะผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21
ในปีแรกจะคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 100 โรงเรียน พร้อมสนับสนุนค่าชุดทดลอง สารเคมีที่ใช้ในการอบรม ครอบคลุมอย่างน้อย 8 การทดลอง เพื่อให้ครูผู้ร่วมโครงการฯ ได้รับชุดทดลองทั้งหมดไปใช้สอนที่โรงเรียน พร้อมคู่มือการทดลอง
และผู้ผ่านการอบรมในโครงการจะได้รับวุฒิบัตรเมื่อผ่านการฝึกอบรม สามารถนำชั่วโมงการอบรมบรรจุในการขอมี หรือเลื่อนวิทยาฐานะของครูผู้สอนต่อไป
โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยหลักการของปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา จะเพิ่มโอกาสให้ครูวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาในสังกัด สพฐ. สามารถนำเทคนิคไปถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียนได้ทำการทดลองด้วยตนเอง
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีใจรักในการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ที่มีความก้าวหน้าและเป็นสาขาอาชีพที่ยังต้องการมากของประเทศในขณะนี้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต