คังคุไบคืออะไร ทำไมต้องดู ฉากไหนดี ฉากไหนโดน อ่านเลยที่นี่

20 พ.ค. 2565 | 05:23 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ค. 2565 | 13:18 น.

คังคุไบคืออะไร ทำไมต้องดู ฉากไหนดี ฉากไหนโดน อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉิมชัยยกให้เป็นภาพยนตร์อินเดียที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี

คังคุไบคืออะไร กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์

 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

คังคุไบ (Gangubai) หนังอินเดียที่ผมเห็นว่าดีที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ไม่ดูไม่ได้แล้ว

 

คังคุไบ เป็นหนังฟอร์มยักษ์ของอินเดีย ซึ่งหลังจากออกฉายแล้ว ติดอันดับท็อปเท็นมากถึง 25 ประเทศ

 

และเป็นอันดับที่ 1 ของภาพยนตร์ที่ไม่ได้พูดเป็นภาษาอังกฤษ เฉพาะในอินเดียทำรายได้กว่า 800 ล้านบาท

 

หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นมากมาย จนบรรยายไม่หวาดไม่ไหว (ควรชมเองจะดีที่สุด) เช่น
เนื้อเรื่องเข้มข้น ชวนติดตามตลอดเวลา ยิ่งทราบว่าสร้างมาจากชีวิตจริง ก็ยิ่งน่าทึ่งและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
 

ฉาก มุมกล้อง เครื่องแต่งตัว สวยงามตระการตา อลังการจริงๆ

 

บทพูดที่รังสรรค์มาอย่างดียิ่ง แหลมคม เฉียบขาด และน่าประทับใจ

 

เมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ คงต้องยอมรับว่าจุดที่เด่นที่สุดก็คือตัวนางเอก ชื่อจริงว่า อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) อายุ 29 ปี ทราบว่ารับค่าตัวมากถึง 90 ล้านบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้

 

ขณะนี้เธอมีทรัพย์สินกว่า 520 ล้านบาท มีผู้ติดตามใน Instagram 60 ล้านคน และใน YouTube อีก 1.9 ล้านคน

 

คังคุไบคืออะไร ทำไมต้องดู

 

ส่วนพระเอกชื่อ ชานตานู อายุ 31 ปี

 

ที่น่าสนใจอีกคน แต่บทน้อยไปหน่อยคือตัวร้ายฝ่ายชาย ที่หลอกนางเอกมาขายให้ซ่องโสเภณี ต้องเรียกว่าหล่อมาก อาจจะถือว่าหล่อกว่าพระเอกก็ได้ ความหล่อนั้นอยู่ในระดับมาเป็นพระเอกหนังไทยสบายสบาย

 

แต่แววตาเป็นคนร้ายอย่างมาก เป็นคนหลอกลวงจริงๆ แตกต่างกับแววตาของพระเอกมาก

 

ฉากที่ชอบที่สุดคือ

 

ฉากที่นางเอกยืนอยู่บนชั้นสองของสำนักโสเภณี ส่วนพระเอกเป็นเด็กหนุ่มใสซื่อยืนอยู่ที่ข้างล่างอีกฟากหนึ่งของถนนเล็กๆในย่านกามธิปุระ ของมุมไบหรือบอมเบย์เดิม

 

แล้วนางเอกเล่นหูเล่นตา มีทั้งทีเล่นทีจริง แบบหมาหยอกไก่ ประกอบไปด้วย แววตาที่พูดได้และยิ้มได้ มุมปาก การยิ้ม และสีหน้าท่าทาง ฉากนี้ไม่มีการพูดกันเลยนะ

 

จบลงด้วยการเล่นไพ่ โดยส่งไพ่มาทีละใบจากชั้นสองใครแพ้ชนะต้องไปดูกันเอง

สุดสุดไปเลย การแสดงของนางเอกฉากนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงมีค่าตัวสูงถึง 90 ล้านบาท ติดอันดับนักแสดงค่าตัวสูงสุดหนึ่งในสี่ของประเทศอินเดียเลยทีเดียว

 

บทบาทการแสดงนั้น ผมถือว่าเหนือกว่านางเอกของฮอลลีวู้ดหรือประเทศตะวันตกอีกหลายคนทีเดียว

 

ส่วนเนื้อหาในภาพยนตร์ จะเห็นพัฒนาการของนางเอกที่ชัดเจนมาก แบบที่ผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่ง มีอนาคตที่ยาวไกลเพราะมีพ่อเป็นทนายความ

 

แต่พลิกผันมาเป็นผู้หญิงที่ไร้ศักดิ์ศรี เป็นโสเภณี มีชีวิตตกอับเข้าตาจน ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร

 

แต่ตัดสินใจ เลือกที่จะสู้ แล้วจะทำชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด ให้มีคุณค่ามากที่สุด ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

 

ที่สำคัญเหนืออื่นใด ในฐานะคนที่ไร้ศักดิ์ศรีไปแล้ว ตั้งใจที่จะดูแลและช่วยเหลือคนไร้ศักดิ์ศรีอีก 4000 คนในย่านกามธิปุระ

 

ดูแลแม้กระทั่งเด็กที่เกิดจากหญิงโสเภณี ที่ไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อ ให้ได้เรียนหนังสือ เพื่อที่จะได้มีอนาคต ไม่ต้องมาเป็นหญิงโสเภณีเหมือนกับแม่ของตนเอง
ประโยคหนึ่งที่ชอบมาก ก็คือ

 

คังคุไบคืออะไร ทำไมต้องดู

 

“คนทั่วไปมีศักดิ์ศรี เมื่อทำผิดพลาดครั้งเดียว ก็หมดศักดิ์ศรี แต่โสเภณีมีศักดิ์ศรี และมีมากด้วย  เพราะทำงานที่ทำลายศักดิ์ศรีตอนกลางคืน แล้วก็มีศักดิ์ศรีใหม่ให้ทำลายอีกทุกคืน"

 

สุดยอดมาก (คิดได้ยังไง ยก 2 นิ้วโป้งให้เลย)

 

ฉากที่เชือดเฉือนกันด้วยคำพูด ในการเลือกตั้ง

 

ฉากที่ถ่มน้ำลาย ลงบนร่างบนคนที่ทำร้ายเธอ จนเธอบาดเจ็บสาหัสปางตาย

 

ฉากร้องไห้ที่บาดลึกเข้าไปในใจของผู้ชม

 

ฉากหมดอาลัยตายอยาก ต้องกวักมือเรียกแขก

 

ฉากที่คุยกับแม่ที่ไม่เข้าใจตนเอง

 

ฉากที่แหย่พระเอก ด้วยความขี้เล่น

 

สุดยอดทุกฉากเลยครับ

 

ใครไม่ได้ดูหนังอินเดียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  ขอแนะนำให้ดู

 

ผมเองดูเพราะฉากที่นางเอกยืนอยู่บนชั้นสอง แล้วเล่นหูเล่นตากับพระเอกนั่นเอง แล้วก็ไม่ผิดหวัง ทุกองค์ประกอบลงตัวไปหมด

 

และที่ถือว่าหนังเรื่องนี้มีคุณค่าควรแก่การรับชมก็คือ มุมมองของการต่อสู้ของผู้คน เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง

 

นึกไม่ถึงเลยว่า หนังอินเดียจะทำได้ดีมากถึงขนาดนี้