ข่าวโควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน และผู้เสียชีวิต
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ไวรัสเดลตาสูญพันธุ์จากประเทศไทยแล้ว พบเป็นโอมิครอน (Omicron) 100%
จากกรณีโควิดระบาดในประเทศไทยเมื่อมกราคม 2563 และมีไวรัสที่เป็นสายพันธุ์หลักในแต่ละระลอกดังนี้
ระลอกที่ 1
ไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น Clade S
ระลอกที่ 2
ไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น Clade GH (B.1.36.16)
ระลอกที่ 3
ช่วงแรกเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า Clade GRY (B.1.1.7)
และตามด้วยไวรัสสายพันธุ์เดลตา Clade GK (B.1.617.2)
ซึ่งเดลตาได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของไทยตั้งแต่กลางปี 2564 ก่อให้เกิดการติดเชื้อระลอกที่ 3 อย่างกว้างขวางและรุนแรงมาก มีผู้ติดเชื้อรวม 2.1 ล้านคน และเสียชีวิต 2.1 หมื่นคน
ระลอกที่ 4
ในเดือนธันวาคม 2564 ไทยเริ่มพบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน Clade GRA (B.1.1.529) และด้วยความที่ไวรัสโอมิครอนแพร่พันธุ์เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า 4-8 เท่า จึงทำให้สัดส่วนของโอมิครอนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับดังนี้
และจากการเก็บข้อมูลล่าสุดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ช่วง 30 เมษายนถึง 6 พฤษภาคม 2565 พบไวรัสเป็นโอมิครอน 100% ไม่มีสายพันธุ์เดลตาเลย
นั่นหมายความว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้ว
เนื่องจากไวรัสโอมิครอนแพร่ได้เร็วมากกว่า จึงออกลูกหลานยึดครองพื้นที่แทนเดลตาได้ทั้งหมด
ในส่วนโอมิครอน 100% เดิมเป็นสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง (BA.1) ต่อมาเมื่อพบสายพันธุ์ย่อยที่สอง (BA.2)ที่มีความสามารถในการแพร่เร็วกว่า BA.1 อยู่ 30-40% ก็ทำให้กลายเป็นสายพันธุ์หลัก ขณะนี้พบมากถึง 97.6%
โชคดีที่ทั่วโลก ก็มีไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่สอง (BA.2) เป็นหลักด้วยเช่นกัน
ทำให้เราสามารถคลายความกังวลในกรณีนักท่องเที่ยวจะเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ตรวจ PCR แต่ฉีดวัคซีนครบ โอกาสที่จะนำไวรัสสายพันธุ์ใหม่อื่นๆเข้ามาจึงเป็นไปได้น้อย
ขณะนี้ในต่างประเทศ พบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 และ BA.2.12.1 บ้างประปราย ซึ่งยังไม่พบในคนไทยเลย ยกเว้นพบชาวบราซิลมี BA.5 หนึ่งราย ซึ่งหายดีจนกลับบ้านไปแล้ว
กล่าวโดยสรุป