โควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริง
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
โควิดไทยดีขึ้นชัดเจนแล้ว ทำไมประกาศโรคประจำถิ่นยังไม่ได้ ?
สถานการณ์โควิดของไทย ณ ปัจจุบัน (3 มิถุนายน 2565) ดีขึ้นอย่างชัดเจนในทุกมิติ เมื่อเปรียบเทียบสถิติของวันนี้ กับยอดสูงสุดหรือพีคในระลอกที่ 4 จากไวรัสโอมิครอน ประกอบด้วย
1.ผู้ติดเชื้อแบบ PCR
2.ผู้ติดเชื้อแบบ ATK
3.ผู้ติดเชื้อรวม
4.ผู้รักษาตัวอยู่ในระบบ
5.ผู้ป่วยหนักมีอาการปอดอักเสบ
6.ผู้ป่วยหนักมากใช้เครื่องช่วยหายใจ
7.ผู้เสียชีวิต
แต่ทำไมยังไม่สามารถประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ได้
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก ได้มีการกำหนดและประกาศต่อสาธารณะว่า เกณฑ์ที่จะถือว่าโควิด-19 ของไทย เป็นโรคประจำถิ่นได้นั้น ประกอบด้วย
1.อัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อ จะต้องน้อยกว่า 0.1% (โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ติดต่อกันอย่างน้อยสองสัปดาห์)
2 อัตราครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ต้องมากกว่า 60% ทั้งในกลุ่มประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้สูงอายุ
3.สถิติอื่นๆประกอบด้วย
จำนวนผู้ติดเชื้อ
จำนวนผู้ป่วยหนัก
อัตราการครองเตียงในระดับ 2,3
เมื่อสำรวจตรวจสอบสถิติต่างๆตามเกณฑ์ดังกล่าวแล้วพบดังนี้
อัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อ
ถ้าคำนวณเฉพาะโควิดระลอกที่ 4 จากไวรัสโอมิครอนพบว่า
อัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อแบบ PCR เท่ากับ 0.37% (ผู้เสียชีวิต 8415 ราย จากผู้ติดเชื้อ 2,237,121 ราย)
อัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อที่รวม ATK ด้วย เท่ากับ 0.21% (ผู้เสียชีวิต 8415 ราย จากผู้ติดเชื้อ 4,004,771 ราย)
ถ้าพิจารณาอัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อทุกระลอก (ระลอกที่ 1-4) รวมกัน
แบบ PCR คิดเป็น 0.67% (เสียชีวิต 30,113 ราย จากผู้ติดเชื้อ 4,460,556 ราย)
และถ้าคิดอัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อที่รวม ATK ด้วย จะได้ 0.48% (ผู้เสียชีวิต 30,113 ราย จากผู้ติดเชื้อ 6,228,206 ราย)
จึงทำให้ยังไม่เข้าเกณฑ์โรคประจำถิ่นที่กำหนดไว้
ส่วนในเรื่องของการฉีดวัคซีน
โดยเกณฑ์ของการเป็นโรคประจำถิ่นจะต้องฉีดวัคซีนเข็มสาม ให้มากกว่า 60% จึงยังไม่ถึงเกณฑ์เช่นกัน
ในประเด็นเรื่องอัตราการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อนั้น คงจะถึงเกณฑ์ 0.1% ได้ค่อนข้างลำบาก
เนื่องจากได้มีการปรับหลักเกณฑ์การรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ เป็นรายงานเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีอาการและเข้ารับการรักษา (ไม่รวมผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ)
นอกจากนั้นยังมีการตรวจเชิงรุกโดยเฉพาะ ATK ลดลงอย่างมีนัยสำคัญคือ ยกเลิกการตรวจของสปสช.ไปเมื่อ 15 พฤษภาคม 2565 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานลดลง
แม้จะได้มีการปรับเกณฑ์การรายงานผู้เสียชีวิต เมื่อ 1 พฤษภาคม 2565 ให้ลดลงมาสอดคล้องกับความเป็นจริงคือ
รายงานเฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิด (Died from COVID-19) ไม่นับรวมผู้เสียชีวิต
จากโรคร่วมแต่มีเชื้อโควิด (Died with COVID-19) แล้วก็ตาม
ก็ยังทำให้อัตราการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อลงมาไม่ถึง 0.1%
การกำหนดเกณฑ์ของโควิด-19 ที่จะเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศไทย จึงเป็นเกณฑ์ที่ทำได้ยาก แม้สถานการณ์โควิด-19 ของเรา จะดีขึ้นในภาพรวมแล้วก็ตาม