พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ได้เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ถือเป็นกฎหมายใหม่ โดยหลังจากครม.เห็นชอบแล้ว และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ยืนยันว่า กฎหมายฉบับนี้ จะสอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก เรื่องความเสมอภาคทางเพศและความหลากหลายทางเพศ และเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามหลักสากล การหมั้นหรือสมรสในเพศเดียวกัน
โดยได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ผู้แทนศาสนาจากทุกศาสนา เพื่อปิดทุกจุดอ่อนให้เป็นกฎหมายที่สร้างสรรค์สังคม และเป็นสากลอย่างแท้จริง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้นำความเห็นจากสถาบันการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ผู้นำศาสนาทุกศาสนา มาประกอบการพิจารณา พ.ร.บ.คู่ชีวิต ก่อนเสนอมายังครม.
ขั้นตอนต่อไปจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในสมัยประชุมนี้ เพื่อประกบกับร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก แต่จะประกาศใช้ทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่นั้น ยังไม่ยืนยัน
ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ซึ่งแยกออกมาจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะในร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต จะไม่มีการแยกเพศ อีกทั้งในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ระบุด้วยว่าไม่ว่าเพศอะไร หากจะเป็นคู่ชีวิตทั้งคู่ต้องมีอายุ 17 ปีขึ้นไป รวมถึงบิดาและมารดาต้องให้ความยินยอมกรณีผู้เยาว์
นายวิษณุ กล่าวว่า จากการรับฟังความเห็นจากฝ่ายศาสนาไม่มีใครขัดข้อง แต่กรณีของศาสนาคริสต์ขอไม่ให้ใช้คำว่า “คู่สมรส”แต่ขอให้ใช้คำว่า “คู่ชีวิต”แทน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบายรายละเอียดของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ โดยฉบับแรกคือ ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ให้สิทธิและหน้าที่คู่ชีวิต เช่น
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต มีดังนี้
ส่วน ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีสาระสำคัญ ดังนี้