หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ กฎหมาย PDPA กรณีการถ่ายภาพติดบุคคลที่ 3 ว่าอาจผิดกฎหมายฉบับนี้หรือไม่
ล่าสุด “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศุภวัชร์ มาลานนท์” ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระบุว่า กรณีการถ่ายรูป ถ่ายคลิปโดยติดบุคคลอื่นโดยผู้ถ่ายรูป ถ่ายคลิปไม่เจตนา และการกระทำดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกถ่าย สามารถทำได้
หากเป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ส่วนการโพสต์ในโซเชียลมีเดียสามารถทำได้ หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ไม่ใช้แสวงหากำไรทางการค้าและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับการติดกล้องวงจรปิด ภายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือน หากเป็นการป้องกันอาชญากรรม และรักษาความปลอดภัย
“ถ่ายภาพได้ไหม ไม่ได้หารายได้ประกอบธุรกิจกับงานเหล่านั้น ต้องเบลอไหม ก็เเล้วเเต่ อยากทำก็ไม่ผิด ตาม PDPA กฎหมายไม่ได้มายุ่งกับชีวิตส่วนตัว ทั้งถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป กล้องวงจรปิด”
ส่วนคำถามที่ว่า อาชีพสื่อมวลชน หากบันทึกภาพติดผู้อื่น การนำไปใช้ได้จะต้องทำอย่างไร ผ.ศ.ศุภวัฒน์ ระบุว่า หากเป็นไปตามประโยชน์สาธารณะ จะไม่เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ของPDPA หรือกรณีประชาชนที่ถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอผู้อื่น นำไปลงโซเชียล หากนำใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนบุคคล ไม่ใช่เพื่อการค้า ก็สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน
“กฎหมายยกเว้นให้กิจการสื่อมวลชน PDPA ความสำคัญกฎหมายต้องการให้สื่อทำหน้าที่ต่อไปได้ ไม่ต้องขอความยินยอม ตราบเท่าที่ไม่ผิดจริยธรรมเเห่งวิชาชีพ ถ้าอยู่บนประโยชน์สาธารณะ โดยหลักการนักข่าวของบริษัทต่างๆ หรือองค์กรสื่อ ทำข่าวได้เหมือนเดิม ส่วนองค์กรก็ยังมีหน้าที่ในการจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามมาตรฐาน ถ้าองค์กรไม่ได้ทำเเต่ธุรกิจสื่อ ทำเรื่องอื่นด้วย เช่น มีการสมัครสมาชิก ก็มีหน้าที่ต้องทำตามกฎหมาย”
PDPA คืออะไร
สิทธิพึงมีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล