สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 120.67 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 122.01 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากดอลลาร์พุ่งขึ้นหลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.88% สู่ระดับ 104.1440 ในวันศุกร์ (10 มิ.ย.) หลังเพิ่มขึ้น 0.68% เมื่อวันพฤหัสบดี
การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (10 มิ.ย.) ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ดัชนี CPI ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524
นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.7% ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%