วันที่ 17 มิถุนายน 2565 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และภาคีภาคประชาชน 9 จังหวัด จัดแสดงผลงานการรณรงค์หยุดพนันในชุมชน ภายใต้ชื่อโครงการ “๙ สู่ชีวิตพอเพียง” รณรงค์และการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อถวายเป็นปฏิบัติบูชาต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร มีการแสดงผลงานและละครสร้างการเรียนรู้ “คนเล่นหวย” โดยทีมเยาวชนรณรงค์หยุดพนัน และเปิดใจอดีตเจ้ามือหวยที่กลับตัวกลับใจหันมาทำอาชีพสุจริต “เปลี่ยนเงินหวยให้เป็นเงินออม” ณ โรงเรียนบ้านหนองคูน้อย อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันดำเนินโครงการรณรงค์หยุดพนัน ในกลุ่มเป้าหมายพื้นที่ชุมชน 9 จังหวัด (ลำปาง น่าน พะเยา กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุบลราชธานี เลย สระบุรี พัทลุง)
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาการพนัน สร้างภูมิคุ้มกันและสภาพแวดล้อมที่ปกป้องเด็กและเยาวชน โดยไม่เพิ่มพื้นที่การพนัน ยอมรับว่าปัญหาการพนันเข้าถึงทุกครอบครัว สสส. พยายามเสริมศักยภาพให้ชุมชนเข้าใจรู้เท่าทันการพนัน ทำให้ชุมชนมีกลไกลปกป้องครอบครัว ดึงผู้ที่เคยประสบปัญหาพนัน โดยเฉพาะหวย กลับใจ ลด ละ เลิก และลุกขึ้นมาเป็นแกนนำเพื่อยืนยันความสำเร็จการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
โดยนำเอาแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ทำให้ชุมชนเข้าใจ เข้าถึงได้อย่างดีด้วยการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทั้ง 9 พื้นที่ ประสบผลสำเร็จได้จากการทำงานร่วมกันคิด ร่วมกันทำของชุมชน โรงเรียน ผู้สูงวัย เด็กและเยาวชน ขณะเดียวกันยังได้ร่วมผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎหมาย นโยบาย มาตรการหรือกลไกกำกับควบคุมการพนันและลดผลกระทบจากการพนันระดับพื้นที่ รวมถึงการสร้างแกนนำคนเลิกพนัน เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เป็นแกนนำนักรณรงค์จนเกิดเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังและสื่อสารสร้างความรู้เท่าทันการพนัน
“ปัจจุบันนับว่าเป็นความท้าทายในยุค 5G สสส. ต้องปรับกลยุทธ์ให้คนติดหวย ทราบถึงผลกระทบปัญหาการพนัน หลายครอบครัวพบว่ามีการเล่นหวยใต้ดิน ใช้เงินตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นจ่ายไปทุกงวด หลายคนอาจจะคิดว่าเล็กน้อย แต่เมื่อมองปัญหาที่เกิดขึ้นเชิงลึก พบว่าบางครอบครัวไม่สามารถพาลูกหลานไปโรงเรียนได้เพราะเงินหมดไปกับหวย จนกระทั่งนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในครอบครัว จึงต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนความคิด” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยกว่า 30 ล้านคน ปีหนึ่งคนไทยหมดเงินไปกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยกว่าสองแสนห้าหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่รั่วไหลไปจากครัวเรือนที่แทบไม่ได้ผลตอบแทนอะไรกลับมา เพราะมีคนถูกรางวัลแค่ 1.4% เท่านั้น
โครงการใช้วิธีการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมให้ประชาชนได้เข้าใจโอกาสที่จะถูกรางวัลจากการซื้อหวยนั้นยาก ด้วยเชื่อว่าเมื่อเขารู้แล้วเขาจะเปลี่ยน เพราะพลังความรักที่มีในทุกครอบครัว เมื่อเขารู้ว่าทำอะไรแล้วดีต่อครอบครัวเขาจะทำ และอาศัยพลังความดีที่มีอยู่ในชุมชน ร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนแปลง
สร้างการระเบิดจากข้างใน ทำให้คนลดละเลิกการเล่นหวยได้ หวยเป็นการพนันที่มีอิทธิพลสูงมากต่อชีวิตผู้คน ถ้าเราทำให้ชาวบ้านเรียนรู้ผลกระทบจากการพนัน ผ่านเรื่องหวยได้ การรณรงค์หยุดพนันตัวอื่นก็ไม่ยาก สิ่งสำคัญคือเมื่อพ่อแม่ไม่เล่นหวยเป็นแบบอย่างต่อเด็กและเยาวชนแล้ว ก็เท่ากับเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันการพนัน และช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดพนันหน้าใหม่ได้” นายธนากร กล่าว
นางบุญร่วม ผงเยี่ยม อดีตเจ้ามือหวยกลับใจ กล่าวว่า ในอดีตเคยเป็นทั้งผู้ซื้อจนผันตัวมาเป็นเจ้ามือหวย จนเรียกว่าเป็นอาชีพก็ว่าได้ แต่กลับสร้างผลกระทบเป็นหนี้ร่วมแสนบาท เนื่องจากผู้ซื้อไม่ยอมจ่ายเงินตามกำหนด จนกระทั่งได้เข้าร่วมโครงการอบรมกับ สสส. คิดเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม ทำให้ได้เรียนรู้บทเรียนการเล่นพนัน และหันมาทำอาชีพสุจริตเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิต จนก้าวสู่ชีวิตพอเพียง ถ้าไม่หยุดหวย ก็ไม่มีชีวิตพอเพียง
“ชาวบ้านหลายคนซื้อหวยงวดละเป็นพัน ๆ บาท ตนจึงเสนอให้เปลี่ยนเงินซื้อหวยมาซื้อประกัน โดยให้ข้อคิดว่า ซื้อหวย เป็นการซื้อความเสี่ยงที่เขามีโอกาสจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย แต่ถ้านำเงินไปออม หรือไปซื้อประกันอย่างไรเขาก็ต้องได้ สิบปีก็มีเงินล้านได้ โดยไม่ต้องนำเงินไปเสี่ยง” นางบุญร่วม กล่าว