กมธ.กาสิโนฯ เตรียมเสนอรัฐเปิดบ่อนถูกกฎหมาย 5 แห่งทั่วประเทศ

29 มิ.ย. 2565 | 11:56 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มิ.ย. 2565 | 19:03 น.

กมธ.กาสิโนฯ เตรียมเสนอรัฐเปิดบ่อนถูกกฎหมาย 5 แห่งทั่วประเทศ เก็บภาษี 30% ห้ามเยาวชน-ข้าราชการใช้บริการ ให้เฉพาะนักท่องเที่ยว ต้องแสดงสถานะการเงินก่อนเข้าใช้ เชื่อลดปัญหาบ่อนผิดกฎหมายได้

วันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธาน กมธ.คนที่ 2 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรแบบถูกกฎหมาย หลังจากที่ได้ร่วมศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขให้ถูกกฎหมาย และแก้ไขการลักลอบเล่นการพนันที่ผิดกฎหมายผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้ว

คณะกรรมาธิการเตรียมสรุปรายงานผลการศึกษาส่งให้รัฐบาลพิจารณาเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในแต่ละภาคของประเทศรวม 5 แห่ง 

  • ภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงราย หรือเชียงใหม่ 
  • ภาคกลาง ในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ EEC
  • ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น แล
  • ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

 

 

โดยให้ทดลองเปิดในภาคละ 1 จังหวัด ซึ่งสถานบันเทิงครบวงจรที่จะเปิดนี้จะเปิดให้เล่นการพนันทุกรูปแบบ ทั้งการพนันพื้นบ้าน และแบบสากล รวมทั้งพนันออนไลน์

 

“รัฐบาลจะเปิดให้มีสัมปทานจากเอกชนมาร่วมธุรกิจ โดยรัฐจะจัดเก็บภาษีร้อยละ 30 รวมทั้งภาษีบำรุงท้องที่เพื่อนำเงินไปบำรุงในพื้นที่เปิดสถานบันเทิง”

 

การเข้าไปใช้บริการภายในสถานบันเทิงจะต้องกำหนดอายุผู้ให้เข้าต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนบุคคลทั่วไปก็ต้องแสดงสถานะการเงินก่อนเข้าไปใช้บริการ ห้ามไม่ให้ข้าราชการเข้าไปใช้บริการ เว้นแต่มีใบอนุญาต 

 

ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษารูปแบบของสถานบริการในต่างประเทศหลายแห่งทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย ก่อนที่จะมาปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับประเทศไทย

 

เชื่อว่าจะสามารถลดปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน และรัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวนมาก

 

คณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาพ.ร.บ.การพนัน มาตรา 4 โดยจะเสนอให้รัฐบาลออกกฤษฎีกา ในข้อกำหนดเพิ่มเติมเรื่องการอนุญาตให้เปิดสถานบริการ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

การเสนอให้ตั้งสถานบันเทิงเต็มรูปแบบถูกกฎหมายครั้งนี้ เพื่อต้องการให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในไทยแต่ละปีจำนวนมาก หลังจากนี้ประมาณ 1 เดือนจะส่งรายงานข้อสรุปให้กับรัฐบาลพิจารณา และเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายในเดือนพฤศจิกายนนี้