"อนุทิน" ติดโควิด รับ "ยาโมลนูพิราเวียร์" แล้ว ปชช.จะได้บ้างไหม ?

29 มิ.ย. 2565 | 03:42 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มิ.ย. 2565 | 10:49 น.

"อนุทิน" ติดโควิด ได้รับ "ยาโมลนูพิราเวียร์" เหตุเข้าข่ายโรคอ้วน เเพทย์ศิริราช ตั้งคำถาม แล้ว ปชช.ที่ติดเชื้อคล้ายกันจะได้รับยานี้บ้างไหม

เกิดประเด็นดรามา หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ติดโควิด หลั’กลับจากการประชุมที่ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ แม้จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 6 เข็มไปแล้ว โดยได้รับ “ยาโมลนูพิราเวียร์”  

ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการให้ยาตามอาการ ขณะที่กรมการแพทย์ยืนยันไม่มีอภิสิทธิ์พิเศษการรักษา เหตุอาการเข้าข่ายโรคอ้วน เป็นไปตามดุลยพินิจแพทย์ ทำให้เรื่องนี้ถูกตั้งคำถามการได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ ที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงคอร์สละ 10,000 บาท

ล่าสุด  "ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร" หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะ​แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ @manopsi ระบุถึงกรณีนี้ว่า 

 

อ่านข่าว รมต. ติด COVID หลังจากได้วัคซีนแล้ว 6 เข็ม มีอาการเล็กน้อยและได้ Molnupiravir ส่วนตัวไม่ได้มีประเด็นข้อสงสัยเรื่องการเข้าถึงยาหรอก แค่สงสัยว่าประชาชนทั่วไปที่คล้ายกันติดเชื้อแล้วจะได้ยานี้ไหม หรือว่าได้แค่ยาที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนอย่าง Favipiravir หรือฟ้าทลายโจรอยู่ดี

 

ถ้าจะลงรายละเอียด กรณีนี้การให้ Molnupiravir อาจไม่ได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ ข้อมูล MOVe-OUT พบว่ามีประโยชน์ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่ “ไม่เคยได้วัคซีน” ลดอัตราป่วยหนักได้ 30%

 

ส่วนข้อมูล Paxlovid อาจได้ประโยชน์ในผู้สูงอายุเกิน 65 ปี ลดป่วยหนักได้ 86% ถ้าไม่เคยได้วัคซีน ถ้าเคยได้วัคซีนลดป่วยหนักได้ 60% แต่ถ้าอายุน้อยกว่า 65 ปี ยา Paxlovid ไม่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเคยได้วัคซีนหรือไม่

 

ขอบคุณข้อมูล : @manopsi