เกิดประเด็นดรามา หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ติดโควิด หลั’กลับจากการประชุมที่ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ แม้จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 6 เข็มไปแล้ว โดยได้รับ “ยาโมลนูพิราเวียร์”
ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการให้ยาตามอาการ ขณะที่กรมการแพทย์ยืนยันไม่มีอภิสิทธิ์พิเศษการรักษา เหตุอาการเข้าข่ายโรคอ้วน เป็นไปตามดุลยพินิจแพทย์ ทำให้เรื่องนี้ถูกตั้งคำถามการได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ ที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงคอร์สละ 10,000 บาท
ล่าสุด "ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร" หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ @manopsi ระบุถึงกรณีนี้ว่า
อ่านข่าว รมต. ติด COVID หลังจากได้วัคซีนแล้ว 6 เข็ม มีอาการเล็กน้อยและได้ Molnupiravir ส่วนตัวไม่ได้มีประเด็นข้อสงสัยเรื่องการเข้าถึงยาหรอก แค่สงสัยว่าประชาชนทั่วไปที่คล้ายกันติดเชื้อแล้วจะได้ยานี้ไหม หรือว่าได้แค่ยาที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนอย่าง Favipiravir หรือฟ้าทลายโจรอยู่ดี
ถ้าจะลงรายละเอียด กรณีนี้การให้ Molnupiravir อาจไม่ได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ ข้อมูล MOVe-OUT พบว่ามีประโยชน์ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่ “ไม่เคยได้วัคซีน” ลดอัตราป่วยหนักได้ 30%
ส่วนข้อมูล Paxlovid อาจได้ประโยชน์ในผู้สูงอายุเกิน 65 ปี ลดป่วยหนักได้ 86% ถ้าไม่เคยได้วัคซีน ถ้าเคยได้วัคซีนลดป่วยหนักได้ 60% แต่ถ้าอายุน้อยกว่า 65 ปี ยา Paxlovid ไม่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเคยได้วัคซีนหรือไม่
ขอบคุณข้อมูล : @manopsi