3 ก.ค.2565 - ประเด็นข้อห่วงใย สำหรับ 'นโยบายเปิดเสรีกัญชา' ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย หลังการปลดล็อกกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติด และถูกวางเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ผลที่ออกมา ดูเหมือนจะสวนทาง ทั้งการนำกัญชาไปใช้ในเชิงสันทนาการ , การนำกัญชามาผสมอาหารและเครื่องดื่มขาย กระทบต่อผู้ซื้อ และ มีผู้ใช้กัญชา เกินขนาดจนเสียชีวิต
ล่าสุด ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึง นโยบายกัญชาเสรี ผ่านการตั้งคำถาม ถึงปลายทางของผลประโยชน์ที่แท้จริง พร้อมกับเชิญชวนภาคประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเรื่องกัญชา โดยเสนอให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น และให้นำชื่อของกัญชา กลับไปอยู่ในบัญชี ยาเสพติด ตามเดิม ตามใจความดังนี้ ....
#อ้างกัญชาทางการแพทย์ หมากเกมส์หลายชั้นเพื่อใคร???
กัญชาสามารถใช้ได้ดีในหลายความเจ็บป่วยของผู้ป่วย ทั้งยาแผนไทยและสารสกัด THC CBD เข้มข้นที่ใช้โดยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งก่อนการปลดล็อคเป็นกัญชาเสรี การมีส่วนสกัดหรือกัญชาสดก็มีเพียงพออยู่ กับกัญชาเพื่อการแพทย์
ครั้นจะเปิดนโยบายปลูกใช้ขายกัญชาได้โดยเสรี ก็ต้องอ้างกัญชาทางการแพทย์นี่แหละ และบัดนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่า กัญชาทางการแพทย์คือเครื่องมือที่ถูกอ้างเป็นเหตุผลเพื่อนโยบายกัญชาเสรี
ทำไมต้องเปิดนโยบายกัญชาเสรีจากเดิมแค่ปลูกกัญชาคนละ6ต้น แต่นั่นคือเกมส์อ้างให้ทุกคนปลูกได้ แต่แท้จริงเพื่อให้นายทุนใหญ่ปลูก บัดนี้มีคนปลูกกัญชาเป็นฟาร์ม เป็นโรงเรือนใหญ่ ปลูกเป็นหมื่นแสนล้านต้น ตุนเป็นกระสุนทุนร่ำรวยจากนโยบายนี้ ราชการก็มีข้อมูล แต่ไม่ยอมบอกกับสังคม
หมากเกมส์นี้ชัดเจนแล้วว่า อ้างกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ขาวบ้านได้ปลูกกันบ้านละ6ต้น ชาวบ้านดีใจได้ปลูก6ต้น แต่แท้จริงก็เป็นการปลดล็อคเพื่อให้คนใหญ่คนมีทุนปลูกกันเป็นฟาร์มต่างหาก กะจะรวยแต่ไม่สนใจผลกระทบต่อสังคม
นี่คือกลเกมส์แห่งกัญชาเสรี ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้คนในสังคมไทย เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายกัญชาเสรี ให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด และให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น
หมายเหตุ : การใช้กัญชาทางการแพทย์ก็สามารถเปิดกว้างสำหรับทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทย และให้ผู้ป่วยปลูกและใช้ดูแลตนเองก็ได้ เราสามารถวางระบบที่รัดกุมได้