หลังจากมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มคนพร้อมนักท่องเที่ยวขณะใช้อุปกรณ์คล้ายบ้องกัญชา ผ่านทางทวิตเตอร์โดยในคลิปมีการระบุว่ากาเป็นการสาธิตการใช้บ้องกัญชาให้กับชาวต่างชาติ บริเวณริมถนนสีลม ซอย 4 ซึ่งเป็นย่านสถานบันเทิงที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะช่วงค่ำถึงดึก
ทั้งนี้ เป็นภาพที่เกิดขึ้นชัดเจนหลังปลดล็อคกัญชาเสรีขณะที่ถนนข้าวสาร มีผู้ค้ากัญชาตั้งแผงค้าบนทางเท้าถึง 4-5 ร้านอย่างโจ่งแจ้ง บางร้านขายหน้าสถานบันเทิง โดยมีผู้ค้ายืนให้บริการตามออเดอร์ ซอยและมวนในรูปบุหรี่
จากกรณีดังกล่าว นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร เปิดเผยว่า การจำหน่ายกัญชาทำได้แต่มีเงื่อนไขจำกัดอยู่ ในกรณีการตั้งแผงค้าบนทางเท้า หรือ ทางสาธารณะ ต้องขออนุญาตเพราะถนนข้าวสารเป็นถนนสาธารณะ หากตั้งแผงโดยไม่มีใบอนุญาต โทษปรับคือ 2,000 บาท ซึ่งผู้ค้าสามารถยื่นขอได้ที่สำนักงานเขต แต่ที่ผ่านมายังไม่พบแผงค้ากัญชา ยื่นขอใบอนุญาตพร้อมขอความร่วมมือให้ผู้ค้าเลิกขาย
ขณะที่นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร กล่าวว่า ผู้ค้ากัญชาบนทางเท้าในคลิปมาจากภายนอก ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบแล้ว เพราะผิดกฎหมายหาบเร่-แผงลอย ต้องขายในอาคารเท่านั้นนอกจากนี้ยังเสนอเปิด "ฮับกัญชา" ที่ถนนข้าวสาร เป็นที่แรกในประเทศไทย โดยมองว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว เป็นโอกาสทางธุรกิจ แต่ต้องกำหนดเงื่อนไข เช่น กำหนดพื้นที่ใช้กัญชา
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การตั้งโต๊ะขายกัญชา หากเป็น "ช่อ-ดอก" ต้องจับกุม แต่ถ้าเป็น "ใบ-ยอด" ยากที่จะจับได้ เพราะไม่มีเครื่องมือที่จะตรวจหาค่า THC ว่าเกินร้อยละ 0.2 เข้าข่ายเป็นยาเสพติดหรือไม่ ส่วนการออกกฎหมายควบคุมเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยอมรับว่า การขายกัญชามวนไม่มีกฎหมายควบคุม ใช้ได้แค่กฎหมายเกี่ยวกับการตั้งร้าน ส่วนกฎหมายแพทย์แผนไทย กำหนดไว้ชัดว่าห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร
ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะรปะธานคณะกรรมาธิการร่างกฎหมายกัญชา-กัญชง ฝากผู้ค้าให้ลดขายในที่โจ่งแจ้ง และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา-กัญชง กำลังดูรายละเอียดร่างกฎหมาย ให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือน ส.ค. และนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว