รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความระบุว่า
สถานการณ์ที่บ้านริมน้ำยังทรงตัวเมื่อย่างเข้าสู่วันที่สองหลังช่วงหยุดยาว บุคลากรที่เคยติดเชื้อลดไปหลักสิบกว่า เริ่มขึ้นมาใหม่ที่ห้าสิบกว่า แต่ก็ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของช่วงจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือนนี้ ส่วนผู้ป่วยตกค้างรอเข้าไอซียูโควิดไม่มีแล้ว
เหลือแต่ผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นแต่ติดเชื้อโควิด ที่รอการหมุนเวียนเข้ารับการรักษาในเตียงผู้ป่วยโควิดที่แทรกอยู่ในวอร์ดผู้ป่วยทั่วไป หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ติดเชื้อโควิดแต่ญาติไม่สามารถดูแลที่บ้านได้ เราจะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เสียประโยชน์ทั้งผู้ป่วยทั่วไปอื่นๆ ผู้ป่วยโรคอื่นที่ติดเชื้อโควิด และผู้ป่วยโควิดอาการรุนแรง
ยอดผู้ป่วยอาการรุนแรงเมื่อวานอยู่ที่ 794 คน ใกล้ทะลุแนวต้านแรกที่ 800 ได้แล้ว และยอดผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ที่ 10,974 คน ใกล้ทะลุแนวต้านแรกที่ 11,000 ได้เช่นกัน (ล่าสุดเมื่อครู่หลังแปดโมง ทะลุทั้งสองแนวต้านแล้ว)
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยตรวจพบเชื้อแล้วแยกกักตัวที่บ้าน สัปดาห์ที่ 10-16 ก.ค. อยู่ที่ 143,827 คน ซึ่งลดจากสองสัปดาห์ก่อนที่ 207,643 และลดจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ 149,537 แต่ต้องระวังว่าน่าจะมีผู้ไม่รายงานเข้าในระบบอีกอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
ดังนั้นยอดผู้ติดเชื้อปัจจุบันยังน่าจะอยู่ที่ราวห้าหมื่นคนต่อวัน อาจทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ถ้าอยู่ขาทรงหรือขาลงจริง การกระเพื่อมหลังช่วงหยุดยาวจึงไม่น่าเป็นระลอกใหญ่ ผมเชื่อว่าผ่านโอมิครอนมาตั้งแต่ BA.1, BA.2 , BA.4, และ BA.5 คนกรุงเทพติดเชื้อโอมิครอนไปแล้วเกินครึ่งเมือง จึงไม่น่าเหลือให้มาระบาดใหญ่อีก
เหลือแค่กระเพื่อมเล็กน้อยเป็นช่วงๆ จากพวกที่ยังรอดตัวอยู่ หรือพวกที่ติดเชื้อโอมิครอนแล้วมานานเกิน 4 เดือนขึ้นไป
ประชาชนควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับช่วงเปลี่ยนผ่าน ไปสู่การอยู่ร่วมกับโควิดแบบโรคประจำถิ่น
ผมว่าภาคการแพทย์และภาคประชาชนมีความพร้อมระดับหนึ่งแล้ว รอแต่ฝ่ายนโยบายให้มาแสดงบทบาทนำหน้าให้ชัดเจน ไม่รู้ตอนนี้มัวไปสาละวนกับเรื่องสุขภาพอื่นๆ หรือเรื่องเปิดเสรี “สางเขียว (กัญชา)”
หรือเตรียมรับมือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ซึ่งไม่รู้จะเป็นมวยล้มต้มคนดูเหมือนที่ผ่านๆ มาหรือเปล่า