วันนี้ (22 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในไทยชาวไนจีเรียที่หลบหนีการรักษาพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต ว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังเร่งติดตามตัวชายชาวไนจีเรีย และส่งรูปพรรณสัณฐานไปทั่วประเทศ และมีรายงานว่าล่าสุดผู้ป่วยฝีดาษลิงชาวไนจีเรียเดินทางออกจากภูเก็ตแล้ว เจ้าหน้าที่ติดตามจากโทรศัพท์มือถือล่าสุดพบพิกัดอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว
ดังนั้นอาจหลบออกทางชายแดนแล้วหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ถ้าเขาเดินทางออกจากไทยไปแล้วจริง ก็เป็นผลดีกับเรา และเราต้องแจ้งให้ประเทศเพื่อนบ้านทราบ
"เขามีโทรศัพท์มือถือ แต่เขาไม่รับโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ทั้งที่เจ้าหน้าที่จะพาตัวมารักษา แต่หนีออกจากโรงพยาบาล โดยตอนเขามาไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่ขอความร่วมมือให้มาตรวจรักษา"
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละเลย หละหลวม จนทำให้เขาหลบหนีไปได้นั้น ขอให้เห็นใจคนทำงานด้วย เพราะเราขอให้เขามาตรวจรักษา เขาไม่ใช่ผู้ต้องหา เรายังไม่สามารถควบคุมตัวเขาได้ ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะแถลงรายละเอียดให้ทราบในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสอบสวนโรคผู้ที่สัมผัสกับชายคนดังกล่าว พร้อมกับตรวจสอบว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นใครบ้าง ต้องนำมาตรวจหาเชื้อ ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีติดเชื้อ ดังนั้นต้องเฝ้าระวังต่อไปอีก2 สัปดาห์ ที่เราไม่ได้ขยายผลอะไรเพราะโรคนี้ยังไม่เหมือนโควิด-19 ที่ติดง่าย และทางองค์การอนามัยโลก ยังไม่ประกาศว่าโรคนี้เป็นโรคที่มีความร้ายแรง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว พร้อมนำภาพพิกัดการเดินทางของชายชาวไนจีเรียคนดังกล่าว ซึ่งมาโผล่ที่บ้านคลองลึก จ.สระแก้ว และมีรายงานจากตำรวจว่า พบความเคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ พื้นที่คลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ
โดยพบว่ามีการใช้เส้นทางถนนสายใหม่ มุ่งหน้าสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ สะพานหนองเอี่ยน - สตรึงบท ซึ่งยังไม่มีการเปิดใช้สะพานอย่างเป็นทางการ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 3511 เดินเข้าช่องทางธรรมชาติบริเวณใต้สะพาน และว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวานนี้ ก่อนจะมีคนรับตัวเดินทางต่อไปมุ่งหน้าไปยังเมืองสีหนุวิวล์ ประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ชายวัย 27 ปี ชาวไนจีเรีย ผู้ป่วย ‘ฝีดาษลิง’ รายแรกในไทย ไม่ให้ความร่วมมือกับทางการ หลังแจ้งผลตรวจติดเชื้อ และขอให้เข้ารับการรักษาตัว ผู้ป่วยไม่ร่วมมือ อ้างว่ามาทำธุรกิจในไทย ให้ข้อมูลเพียงว่าชอบเที่ยวสถานบันเทิง และเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ไป
รพ.ไม่ได้ให้แอดมิทรักษาตัวใน รพ.โดยให้รักษาอาการและกักตัวที่บ้าน เพราะอาการน้อย แต่พอผลยืนยันว่าฝีดาษลิงแน่นอน ก็ติดต่อไปเพื่อจะพาคนไข้มากักตัวที่ รพ แต่คนไข้ปิดมือถือหนี และนั่งแท็กซี่ออกจากคอนโดที่พัก ไปป่าตอง แล้วหลังจากนั้นก็หายตัวไปจากโรงแรม ยังตามตัวแท็กซี่คันนั้นไม่ได้ ขอให้แท็กซี่คันดังกล่าวรีบติดต่อ จนท.เพื่อตรวจโรค
Mr.OSMOND CHIHAZIRIM NZEREM สัญชาติไนจีเรีย วันเกิด 19/01/1995 อายุ 27 ปี หนังสือเดินทาง A10414328 เข้ามาทาง ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ ET0618 เมื่อ 21/10/2021 ประเภทวีซ่า NON-ED น่าจะมาเรียนภาษา (อยู่ได้ 90 วัน) อนุญาตถึง18/01/2022
โดยแจ้งว่า จะเดินทางไปมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต เข้าพบเเพทย์ที่ รพ.กรุงเทพฯภูเก็ต เพราะอาการมีตุ่มขึ้นตามผิวหนังเมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 เเละได้กลับไปยังที่พัก พื้นที่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อมา รพ.ได้ส่งตัวอย่างเชื้อไปตรวจยืนยันผล เมื่อผลยืนยัน ติดต่อไม่ได้