"หมอยง" ชี้ "ฝีดาษลิง" ยากต่อการควบคุม-ไม่มีทางหมดไป เพราะอะไร อ่านเลย

26 ก.ค. 2565 | 02:07 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ค. 2565 | 09:07 น.

"หมอยง" ชี้ "ฝีดาษลิง" ยากต่อการควบคุม-ไม่มีทางหมดไป เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ ระบุทุกประเทศต้องช่วยกันในการควบคุม ลดการระบาดของโรค

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย โพสต์ข้อความว่า

 

ฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง)

 

ฝีดาษวานร เป็นโรคที่องค์การอนามัยโลกประกาศเป็น ภาวะฉุกเฉินฯ ระหว่างประเทศ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2565  

 

ทุกประเทศ ควรจะต้องช่วยกันในการควบคุม ลดการระบาดของโรค 

 

ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก มากกว่า  16,000 คน มีรายงานกล่าวถึงการเสียชีวิต  5 ราย 

 

แต่ตามรายงานขององค์การอนามัยโลกในวันที่ 22กรกฎาคม 2565 ไม่มีผู้เสียชีวิต 
 

พบผู้ป่วยมากกว่า  70 ประเทศ และจะพบจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกแน่นอน 

 

โรคนี้เป็นโรคที่ไม่รุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตน่าจะน้อยกว่า  3 ใน10,000 โดยเฉพาะพวกกลุ่มเปราะบางเท่านั้น 

 

ฝีดาษวานร ที่รายงานให้องค์การอนามัยโลกพบในเพศชาย  98% และอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ จำนวนมากเป็นชายรักชาย

 

ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (22 ก.ค. 2565) และผู้ป่วยมีการติดเชื้อ HIV ร่วมด้วยเป็นจำนวนนาก(https://worldhealthorg.shinyapps.io/mpx_global/)  

 

"ฝีดาษลิง" ยากต่อการควบคุม-ไม่มีทางหมดไป

 

โรคฝีดาษวานร ติดต่อและแพร่กระจาย โดยการสัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกิจกรรมเพศสัมพันธ์

 

โรคอะไรก็ตาม ที่เกี่ยวกับการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ จึงยากที่จะควบคุมหรือกำจัดให้หมดไป 
 

กามโรคมีมานับหลายร้อยปี มียารักษาที่ดี ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ 

 

ในทำนองเดียวกัน ฝีดาษวานรจึงเป็นการยากในการควบคุม และกำจัดให้หมดไป 

 

นอกจากฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้ครอบคลุมเกือบทั้งหมด 

 

ก็ต้องใช้จ่ายเงินอีกจำนวนมาก  เราคงต้องอยู่กับโรคนี้อีก