"กราดยิงอุบล" อัพเดทล่าสุด ศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่ม 2 ราย 

08 ส.ค. 2565 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2565 | 17:02 น.

อัพเดทเหตุกราดยิงที่อุบลราชธานี ล่าสุดศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนได้แล้วรวม 8 กระบอก 

8 สิงหาคม 2565 ความคืบหน้าเหตุกราดยิงบริเวณลานจอดรถอุบลสแควร์ ข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ โดย พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุเพิ่มเติมอีก 2 คน คือ นายนิกร หรือ เหม่า ทองพันธ์ เนื่องจากมีพยานหลักฐานยืนยันว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนอาก้า กราดยิงตอบโต้ กับนายภิวัฒน์ หรือ โชค การ์ดฝั่งเอกมัย 487 ซึ่งมามอบตัวหลังก่อเหตุจับได้คนแรกในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้

 

สำหรับสาเหตุที่ออกหมายจับข้อหาพยายามฆ่าก่อน เพราะผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เท่านั้น

อีกคน คือ นายวรวิทย์ หรือแจ้ รอดภัย ฝั่งของการ์ดเอกมัย 487 ข้อหาร่วมกันก่อเหตุชุลมุนทำร้ายร่างกาย จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพราะวันเกิดเหตุ นายวรวิทย์ เดินตามนายสมชาย ศรีหิน หรือชาย หาดวัดใต้ นักเลงรุ่นใหญ่ หัวหน้ากลุ่มหาดวัดใต้ เข้าไปร่วมเคลียร์ปัญหาในห้องวีไอพีหลังร้านพญายอ ที่ทั้งสองฝ่ายกำลังมีการคุยตกลงกันอยู่ และเกิดการชกต่อยทำร้ายกันขึ้น ก่อนที่นายสมชาย และนายภิวัฒน์ ใช้ปืนยิงนายโชคทวัตร หรือเป็ด บ้านขาม จนเสียชีวิตและเกิดการยิงปะทะกันขึ้น

 

สำหรับผู้ถูกออกหมายจับล่าสุดทั้งสองรายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเฉพาะของกลางปืนอาก้า พร้อมกันนี้คณะทำงานเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อหาซ่องโจรในส่วนผู้เกี่ยวข้องรายอื่นเพิ่มเติมอีก

ส่วนอาวุธปืนที่คาดว่าจะถูกนำก่อเหตุ ได้ติดตามตรวจยึดมาได้แล้วรวม 8 กระบอก เป็นปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. 7 กระบอก ปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 อีก 1 กระบอก ได้ส่งไปให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบเปรียบเทียบกับปลอกกระสุน และหัวกระสุนปืนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุรวม 150 นัดด้วย


ขณะที่กรณีหลังเกิดเหตุมีการโพสต์ภาพกลุ่มวัยรุ่นถืออาวุธปืนยาวลักษณะอาวุธปืนสงครามในสื่อโซเชียลนั้น ตำรวจก็ได้ติดตามไปตรวจสอบ พบเป็นปืนบีบีกัน และปืนขนาด .22 รวมจำนวน 4 กระบอก จึงยึดมาตรวจสอบและเชิญตัวผู้อยู่ในรูปมาให้ปากคำ ส่วนเจ้าของเพจที่มีการโพสต์ภาพอ้างว่า ถูกแฮกเอาภาพไปโพสต์