"ศวฮ." ผุดศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านนวัตกรรมฮาลาล

16 ส.ค. 2565 | 06:11 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2565 | 13:12 น.

ศวฮ.ผุดศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านนวัตกรรมฮาลาล พร้อมร่วมกับชุมชนเพื่อนำองค์ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยสู่การพัฒนาชุมชน

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ในฐานะผู้อำนวยการผู้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) และประธานมูลนิธิมุฮัมมะดียะฮฺ เปิดเผยว่า ศวฮ. ได้ดำเนินการร่วมกับมูลนิธิมุฮัมมะดียะฮฺจัดสร้าง ศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านนวัตกรรมฮาลาล (The Halal Innovation Community Learning Center หรือ HICOLEC) ขึ้นบนพื้นที่ 4 ไร่ 1 งานของมูลนิธิ ณ ตำบลชุมพล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เป็นอาคารต่างๆ เพื่อพัฒนางานนวัตกรรมฮาลาล จัดทำศูนย์เรียนรู้สำหรับชุมชนรวมถึงโรงเรียนสอนคิด (Thinking school) สำหรับเด็กและเยาวชน

 

ทั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านนวัตกรรมฮาลาลดังกล่าว จะใช้ศักยภาพของนักวิชาการ ศวฮ.ในการดำเนินงานร่วมกับชุมชนเพื่อนำองค์ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยสู่การพัฒนาชุมชน นำทฤษฏีสู่การปฏิบัติ เน้นงานพัฒนาธุรกิจ อุตสาหกรรมและการเกษตรฮาลาล เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงร่วมกับมูลนิธิในการพัฒนาเยาวชนของชาติ สร้างคนคุณภาพป้อนแก่สังคม  

รศ.ดร.วินัย กล่าวต่อไปว่า ย้อนหลังกลับไปในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2546 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณสามปี พ.ศ.2547-2549 สนับสนุนการจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ด้านฮาลาลในคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีต่อมาสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยกฐานะห้องปฏิบัติการดังกล่าวขึ้นเป็น ศวฮ. ภายหลังมีการกำหนดให้วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2546 เป็นวันถือกำเนิด ศวฮ.

 

สำหรับพันธกิจสำคัญที่ ศวฮ.ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลเวลานั้นคือวิจัย พัฒนาและบริการงานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สังคม เศรษฐกิจและวิชาการของประเทศ พัฒนาบุคคลากรในสาขาวิทยาศาสตร์ฮาลาล และสนับสนุน ร่วมมือ สร้างเครือข่ายกับองค์กรศาสนาอิสลาม สถาบันวิชาการและหน่วยงานอื่นทั้งในและต่างประเทศ 

 

ศวฮ.ผุดศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านนวัตกรรมฮาลาล

 

ด้วยปณิธาณที่ว่านำวิทยาศาสตร์ฮาลาลสู่อัตลักษณ์ประเทศไทย ศวฮ.ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาลสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยตลอดมา กระทั่งเข้ารับรางวัลระดับนานาชาติจากนายกรัฐมนตรี สหพันธรัฐมาเลเซียใน พ.ศ.2549 และได้รับการยกย่องว่าคือสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกในโลก

ศวฮ.เติบโตขึ้นเป็นระยะ เปิดสำนักงานจังหวัดปัตตานีใน พ.ศ.2552 จังหวัดเชียงใหม่ใน พ.ศ.2555 พัฒนาห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาลกระทั่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 และ ISO9001 ตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิจัยระดับนานาชาติ 

 

สร้างนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมฮาลาลหลายชิ้น พัฒนาระบบการมาตรฐานฮาลาลภายใต้ชื่อ HAL-Q หรือ Halal Assurance, Liability-Quality System ต่อยอดจากงาน Halal-HACCP ที่พัฒนาร่วมกับสถาบันอาหารใน พ.ศ.2543 จัดวางระบบในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 774 แห่งทั่วประเทศ 

 

สร้างการยอมรับกระทั่งทำให้ผลงานที่ชื่อ HAL-Q นวัตกรรมระบบบริหารจัดการคุณภาพความปลอดภัยผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาละครบวงจร ได้รับรางวัลนวัตกรรมบริการที่เป็นเลิศภาครัฐระดับดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ใน พ.ศ.2556 ต่อมาได้รับรางวัลเดียวกันในระดับเดียวกันอีกครั้งใน พ.ศ.2563 กับผลงาน “H numbers นวัตกรรมระบบค้นหาวัตถุเจือปนอาหารฮาลาลแม่นยำเพื่ออุตสาหกรรมอาหารฮาลาลแห่งอนาคต ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกกับการพัฒนาฐานข้อมูลบัญชีวัตถุดิบฮาลาล