เปิดสถิติอุบัติเหตุบน “ทางหลวง” กระทบทรัพย์สินเสียหาย 9 ล้าน

16 ส.ค. 2565 | 13:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2565 | 20:34 น.

“ทล.” สรุปสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พบอุบัติเหตุกว่า 1 พันครั้ง ลดลง 8% เทียบจากปีก่อน เผยสาเหตุหลักขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด กระทบทรัพย์สินเสียหาย 9 ล้านบาท

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.โดยสำนักอำนวยความปลอดภัย ได้สรุปรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำ  เดือนกรกฎาคม 2565 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 1,088 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 929 คน จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,654 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 9 ล้านบาท

 

เปิดสถิติอุบัติเหตุบน “ทางหลวง” กระทบทรัพย์สินเสียหาย 9 ล้าน

ทั้งนี้หากเมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนกรกฎาคม 2564 จำนวนอุบัติเหตุลดลงจากปีที่ผ่านมา 8% ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 54% บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 19% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 0.4% ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 79% (858 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 7% (72 ครั้ง) หลับใน 6% (68 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 4% (47 ครั้ง)  

 สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 62% (674 ครั้ง) ทางโค้ง 14% (153 ครั้ง) และทางแยกระดับเดียวกัน 8% (91 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 40% (662 คัน) รถยนต์นั่ง 27% (443 คัน) และรถจักรยานยนต์ 12% (205 คัน) ซึ่งหากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่าเส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 25% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20% และภาคกลาง กรุงเทพและปริมณฑล 17%  นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 7 ตอน แขวงคลองสองต้นนุ่น – พิมพา จำนวน 45 ครั้ง  

เปิดสถิติอุบัติเหตุบน “ทางหลวง” กระทบทรัพย์สินเสียหาย 9 ล้าน

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวงพร้อมทั้งให้แขวงทางหลวงดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยถนน ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวง ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้