นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เร่งดำเนินการเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังในการรับมือฤดูฝนตามแนวทาง 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 ซึ่งนอกจากมาตรการที่ 6 ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวาแล้ว กรมฯ ยังรับผิดชอบมาตรการที่ 9 ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ จึงได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ สั่งการให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรอุปกรณ์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ กรม ฯ ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบสภาพการใช้งานขององค์ประกอบของระบบป้องกันน้ำท่วมและเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมให้คำแนะนำในการเตรียมการรับมือน้ำท่วมและการเตรียมการในจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม พร้อมหาแนวทางแก้ไข
นายพรพจน์ เพ็ญพาส กล่าวต่อว่า ในกรณีที่พบจุดชำรุดเสียหาย จุดเสี่ยง จุดรั่วไหลของน้ำของระบบป้องกันน้ำท่วมที่ไม่รุนแรง ขอความอนุเคราะห์ให้จังหวัดดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขเป็นการชั่วคราวอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากปริมาณฝนที่จะตกชุกหนาแน่นในช่วงหน้าฝนนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความชำรุดเสียหายมากไปกว่าเดิม และแจ้งให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กำหนดรูปแบบและวิธีการแก้ไขไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
สำหรับกรณีที่พบความชำรุดเสียหายรุนแรงของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำรวมถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ที่จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถจัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมได้ ก็ขอให้จัดทำรายละเอียดความเสียหายแจ้งมายังกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมต่อไป
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ กรมอุตุนิยมวิทยา การแจ้งเตือนภัยของจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาภัยพิบัติจากสถานการณ์น้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ให้สังเกตและสำรวจพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำ หากพบรอยร้าว รอยแยกและการทรุดตัวที่ผิดปกติ สามารถแจ้งไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากตลิ่งริมแม่น้ำพังทลายให้เร็วที่สุด