รัฐบาล แนะยื่นกู้ผ่าน แอป “กยศ.Connect” ทำสัญญาไม่ต้องค้ำ-ไม่มีข้อจำกัด

27 ส.ค. 2565 | 04:26 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2565 | 11:43 น.

รองโฆษกรัฐบาล เผย ปีการศึกษา 65 มีนักเรียน นักศึกษา ขอกู้ กยศ.แล้วกว่า 5.9 แสนราย อยู่ระหว่างชำระหนี้รวมทั้งหมด 3.4 ล้านราย แนะยื่นกู้ผ่าน แอป “กยศ.Connect” ทำสัญญาได้โดยไม่ต้องมีคนค้ำ กู้เงินได้ทุกคน โดยไม่มีข้อจำกัด


วันที่ 27 ส.ค. 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษาของคนไทยทุกคน รวมถึงพัฒนาสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กทุกคนได้อยู่ในระบบการศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นอีกหน่วยงานสำคัญของรัฐที่ทำหน้าที่ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา

 

โดยปีการศึกษา 2565 กองทุนฯ ได้เตรียมเงินงบประมาณให้กู้ยืมจำนวน 38,000 ล้านบาท เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษา จำนวนกว่า 600,000 คน จากรายงานของ กยศ.พบว่า มีผู้ยื่นกู้แล้ว 590,796 คน รวมวงเงินให้กู้กว่า 27,881 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 65)
 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก

ทั้งนี้ งบประมาณที่ให้กู้ยืมไม่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน แต่ใช้เงินกองทุนที่ลูกหนี้ใช้คืนหนี้ จึงเสมือนกับเป็นเงินที่รุ่นพี่ส่งมอบโอกาสแก่รุ่นน้อง โดยกองทุนมีเงินหมุนเวียนจากการชำระคืนกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้กองทุนมีเงินให้นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อๆ ไป โดยไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นมา

 

ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ จำนวน 3,458,429 ราย แบ่งเป็น ยอดหนี้คงเหลือจำนวน 337,857 ล้านบาท อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1,056,958 ราย ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 1,633,702 ราย และเสียชีวิตทุพพลภาพ 68,369 ราย และ กยศ. จะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามศักยภาพ ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ยปรับ


 

“สำหรับนักเรียน นักศึกษาสามารถยื่นกู้ยืมและทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยแอปพลิเคชัน “กยศ.Connect” และสามารถทำสัญญาเงินกู้ยืมได้โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันอีกด้วย ทั้งนี้ การอุดหนุนงบประมาณเป็นไปตามความต้องการและความจำเป็นของผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในแต่ละปี ย้ำ กยศ.จะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัว คนที่ขาดแคลนสามารถกู้เงินได้ทุกคน โดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา” นางสาวรัชดา กล่าว