"ขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่" ลุ้น กรมการขนส่งเคาะ ธ.ค.นี้

02 ก.ย. 2565 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2565 | 15:50 น.

"ศักดิ์สยาม" สั่ง "กรมขนส่ง" เปิดเวทีรับฟังความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-ประชาชน คาดได้ข้อสรุปปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ภายในเดือน ธ.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (แท็กซี่มิเตอร์) ว่า ที่ผ่านมามีข้อร้องเรียนจากผู้ขับแท็กซี่ได้ยื่นเรื่องถึงกรมขนส่งทางบก (ขบ.) เบื้องต้น ได้รับทราบจาก ขบ. ว่าได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเวทีสาธารณะ โดยมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สภาคุ้มครองผู้บริโภค นักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งสาธารณะ และองค์การนอกภาครัฐ (NGO)​ เป็นต้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันให้พิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ เนื่องจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 7% จาก 5 ปีก่อน หรือตั้งแต่ปี 2560

"ผมได้มอบหมายให้ กรมฯ พิารณาตัวเลขการปรับอัตราค่าโดยสารดังกล่าว หากดัชนีCPI มีการปรับขึ้นค่าโดยสารก็ต้องเพิ่มขึ้น แต่ถ้าในกรณีดัชนีCPIลดลง อัตราค่าโดยสารก็ต้องปรับตัวลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นของสภาผู้บริโภค มองว่าหากปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ต้องมีการปรับปรุงมาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการ ซึ่งในมุมของผู้ให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบันก็ได้มีการปรับปรุงมาตรฐานแล้วเช่นกัน"

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนอีก 2 ครั้ง โดยจะจัดขึ้นภายในเดือนกันยายน และตุลาคมนี้ ทั้งในรูปแบบเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และรูปแบบออนไลน์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารภายในเดือนธันวาคม 2565 แต่หากท้ายที่สุดไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ผมก็ไม่สามารถอนุญาติพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารได้

 

 

 นอกจากนี้ ในกรุงเทพฯ​ และ​ปริมณฑล​ มีระบบขนส่งมวลชน​อีกหลายทางเลือก เช่น เรือ รถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันกรมฯ​ เริ่มคิกออฟรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (อีวี)​ ให้บริการแล้วจำนวน 153 คัน เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา แบะตั้งเป้าเปิดให้บริการรถเมล์อีวีจำนวน 1,250 คัน ภายในปี 2565 นี้ต่อไป ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) และบริษัท บขส. จำกัด อยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งกระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าการให้บริการรถสาธารณะ​รูปแบบเดิม (รถร้อน)​ จะหมดไปภายใน 3 ปี